กระบี่ - เครือข่ายแบ็กแพกปกป้องอันดามันจากถ่านหิน รุกยื่นแถลงการณ์ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินที่กระบี่ ชี้จะทำให้เกิดหายนะทางสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (20 พ.ค.) เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ประมาณ 100 คน นำโดย นายอัครเดช ฉากจินดา ฝ่ายกิจกรรมแบ็กแพก เครือข่ายปกป้องอันดามันจากหิน นายอาหลี ชาญน้ำ นายกสมาคมคนรักเลกระบี่ รวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นแถลงการณ์ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ผ่าน นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมถือป้ายข้อความคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขนาดกำลังผลิต 800 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โดยมี พ.อ.พงษ์เทพ ประกอบศุขราษฎร์ รอง ผอ.รมน.ก.บ.(ท) รับหนังสือแถลงการณ์
นายอัครเดช ฉากจินดา ฝ่ายกิจกรรมแบ็กแพก เครือข่ายปกป้องอันดามันจากหิน กล่าวแถลงการณ์ว่า เมื่อรัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานประกาศสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ขนาดกำลังผลิต 800 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ ต.ขนาน อ.เหนือคอลง จ.กระบี่ ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ทางฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ เริ่มรู้สึกถึงวิกฤตที่กำลังจะมาถึง เนื่องจากเรารับทราบประสบการณ์จากทั่วโลกว่า โรงไฟฟ้าถ่านหิน คือ หายนะทางสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ และเมื่อได้ศึกษารายงานวิจัยของนักวิชาการพบว่า สารพิษที่เกิดจากโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นเป็นวิกฤตที่ยากจะเยียวยา
และเมื่อได้ฟังคำแถลงฉบับที่ 4 ของคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาล (IPCC) ที่สนับสนุนโดยสหประชาชาติ ซึ่งได้ระดมนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก จำนวน 2,000 คน พบว่า พลังงานฟอสซิล คือ ตัวการสำคัญของหายนะด้านสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เลขาธิการสหประชาชาติออกมาเรียกร้องให้ให้ผู้นำทั่วโลกตระหนักถึงภาวะดังกล่าวด้วยการหยุดพลังงานฟอสซิล แต่ในขณะนี้ผู้นำรัฐบาลไทยกลับดำเนินการตรงข้าม เราในฐานะประชาชนอันดามัน จึงต้องลุกขึ้นมาปกป้องแผ่นดินของเราเอง และหวังว่าวันหนึ่งรัฐจะสำนึกหันมาเอาจริงเอาจังต่อการใช้พลังงานหมุนเวียน
สิ่งที่ทางกลุ่มฯ จะทำได้คือ การสร้างนโยบายสาธารณะที่ดีด้านพลังงานด้วยดารเดินทางไปบอกเล่าให้คนในอันดามันทราบว่า ถ่านหินเป็นหายนะต่อบ้านของเรา และในขณะเดียวกัน ต้องการนำเรื่องราวบนแผ่นดินอันดามันมาบอกเล่าต่อสาธารณว่า แต่ละจังหวัดมีสิ่งดีๆ ที่ไม่ควรจะถูกทำลายโดยไฟฟ้าถ่านหิน เราจึงใช้แรงกายแรงใจของเรา ร่วมกันแบกเป้าเดินทางไปยังสถานที่สำคัญในฝั่งอันดามัน ในนาม “กิจกรรมแบ็กแพกปกป้องอันดามันจากถ่านหิน” โดยมีเป้าหมายสุดท้ายเพื่อร่วมกันสร้างนโยบายสาธารณะด้านพลังงานที่ปลอดภัย และมั่นคงแก่คนอันดามัน และของคนทั้งประเทศด้วย
ปัจจุบัน พื้นที่อันดามันได้กลายเป็นพื้นที่สำคัญของโลกด้านการท่องเที่ยว โดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และนักท่องเที่ยวเมื่อทราบข่าวว่าจะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ได้เกิดคำถามที่สำคัญว่า ประเทศกำลังคิดอะไร จึงเอาพื้นที่ที่สวยงามมาสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทั้งที่ทั้งโลกมีบทสรุปว่า มันเป็นเชื้อเพลิงที่อันตรายอย่างยิ่งต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายคนบอกว่า พวกเขาได้รับประสบการณ์มลพิษของโรงไฟฟ้าถ่านหินมาก่อนแล้ว
กิจกรรมแบ็กแพกจะเริ่มต้นจากจังหวัดสตูล ตรัง กระบี่ พังงา ภูเก็ต และจะมาสิ้นสุดที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีการให้ความรู้ กิจกรรมรณรงค์แสดงพลัง ทั้งนี้ หวังว่ากิจกรรมครั้งนี้จะช่วยให้รัฐบาลตระหนักว่า การสร้างนโยบายสาธารณะด้านพลังงานที่ผูกขาดนั้นจะนำมาซึ่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง มีผลในการทำลายเศรษฐกิจของคนอันดามัน และประกาศยกเลิกการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่การท่องเที่ยวของโลก
เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินขอเชิญชวนทุกท่านในประเทศมาร่วมกิจกรรมกับเรา และร่วมแสดงพลังปกป้องแหล่งท่องเที่ยวของโลกให้เป็นสมบัติของคนไทยสืบไป โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ ไม่สามารถจัดกิจกรรมทางท่องเที่ยวใดๆ ตามที่นักการเมือง และข้าราชการนิยมทำได้อีกต่อไป หากว่าเกิดโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้น เพราะไม่มีกิจกรรมใดที่จะได้รับการมาเยือนจากใครก็ตามบนโลกใบนี้หากอยู่ภายใต้ควันถ่านหิน
ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดลงแรงอย่างแข็งขันเพื่อให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ และนำไปสู่การยุติกระบวนการต่างๆ ที่จะนำไปสู่การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่กำลังเร่งรัดในขณะนี้ เราในฐานะประชาชนคนอันดามัน และคนทั้งประเทศจะร่วมปกป้องแผ่นดินอันดามันอย่างสุดกำลัง และหลังจากนี้อีก 15 วัน ก็จะมาตามเรื่องว่าทางจังหวัดได้ส่งแถลงการณ์ฉบับนี้ให้ทางรัฐบาลหรือยัง เพื่อทางกลุ่มฯ จะได้จัดการเคลื่อนไหวคัดค้านต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (20 พ.ค.) เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ประมาณ 100 คน นำโดย นายอัครเดช ฉากจินดา ฝ่ายกิจกรรมแบ็กแพก เครือข่ายปกป้องอันดามันจากหิน นายอาหลี ชาญน้ำ นายกสมาคมคนรักเลกระบี่ รวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นแถลงการณ์ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ผ่าน นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมถือป้ายข้อความคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขนาดกำลังผลิต 800 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โดยมี พ.อ.พงษ์เทพ ประกอบศุขราษฎร์ รอง ผอ.รมน.ก.บ.(ท) รับหนังสือแถลงการณ์
นายอัครเดช ฉากจินดา ฝ่ายกิจกรรมแบ็กแพก เครือข่ายปกป้องอันดามันจากหิน กล่าวแถลงการณ์ว่า เมื่อรัฐบาลโดยกระทรวงพลังงานประกาศสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ขนาดกำลังผลิต 800 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ ต.ขนาน อ.เหนือคอลง จ.กระบี่ ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ทางฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ เริ่มรู้สึกถึงวิกฤตที่กำลังจะมาถึง เนื่องจากเรารับทราบประสบการณ์จากทั่วโลกว่า โรงไฟฟ้าถ่านหิน คือ หายนะทางสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ และเมื่อได้ศึกษารายงานวิจัยของนักวิชาการพบว่า สารพิษที่เกิดจากโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นเป็นวิกฤตที่ยากจะเยียวยา
และเมื่อได้ฟังคำแถลงฉบับที่ 4 ของคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาล (IPCC) ที่สนับสนุนโดยสหประชาชาติ ซึ่งได้ระดมนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก จำนวน 2,000 คน พบว่า พลังงานฟอสซิล คือ ตัวการสำคัญของหายนะด้านสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เลขาธิการสหประชาชาติออกมาเรียกร้องให้ให้ผู้นำทั่วโลกตระหนักถึงภาวะดังกล่าวด้วยการหยุดพลังงานฟอสซิล แต่ในขณะนี้ผู้นำรัฐบาลไทยกลับดำเนินการตรงข้าม เราในฐานะประชาชนอันดามัน จึงต้องลุกขึ้นมาปกป้องแผ่นดินของเราเอง และหวังว่าวันหนึ่งรัฐจะสำนึกหันมาเอาจริงเอาจังต่อการใช้พลังงานหมุนเวียน
สิ่งที่ทางกลุ่มฯ จะทำได้คือ การสร้างนโยบายสาธารณะที่ดีด้านพลังงานด้วยดารเดินทางไปบอกเล่าให้คนในอันดามันทราบว่า ถ่านหินเป็นหายนะต่อบ้านของเรา และในขณะเดียวกัน ต้องการนำเรื่องราวบนแผ่นดินอันดามันมาบอกเล่าต่อสาธารณว่า แต่ละจังหวัดมีสิ่งดีๆ ที่ไม่ควรจะถูกทำลายโดยไฟฟ้าถ่านหิน เราจึงใช้แรงกายแรงใจของเรา ร่วมกันแบกเป้าเดินทางไปยังสถานที่สำคัญในฝั่งอันดามัน ในนาม “กิจกรรมแบ็กแพกปกป้องอันดามันจากถ่านหิน” โดยมีเป้าหมายสุดท้ายเพื่อร่วมกันสร้างนโยบายสาธารณะด้านพลังงานที่ปลอดภัย และมั่นคงแก่คนอันดามัน และของคนทั้งประเทศด้วย
ปัจจุบัน พื้นที่อันดามันได้กลายเป็นพื้นที่สำคัญของโลกด้านการท่องเที่ยว โดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และนักท่องเที่ยวเมื่อทราบข่าวว่าจะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ได้เกิดคำถามที่สำคัญว่า ประเทศกำลังคิดอะไร จึงเอาพื้นที่ที่สวยงามมาสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทั้งที่ทั้งโลกมีบทสรุปว่า มันเป็นเชื้อเพลิงที่อันตรายอย่างยิ่งต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายคนบอกว่า พวกเขาได้รับประสบการณ์มลพิษของโรงไฟฟ้าถ่านหินมาก่อนแล้ว
กิจกรรมแบ็กแพกจะเริ่มต้นจากจังหวัดสตูล ตรัง กระบี่ พังงา ภูเก็ต และจะมาสิ้นสุดที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีการให้ความรู้ กิจกรรมรณรงค์แสดงพลัง ทั้งนี้ หวังว่ากิจกรรมครั้งนี้จะช่วยให้รัฐบาลตระหนักว่า การสร้างนโยบายสาธารณะด้านพลังงานที่ผูกขาดนั้นจะนำมาซึ่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง มีผลในการทำลายเศรษฐกิจของคนอันดามัน และประกาศยกเลิกการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่การท่องเที่ยวของโลก
เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินขอเชิญชวนทุกท่านในประเทศมาร่วมกิจกรรมกับเรา และร่วมแสดงพลังปกป้องแหล่งท่องเที่ยวของโลกให้เป็นสมบัติของคนไทยสืบไป โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ ไม่สามารถจัดกิจกรรมทางท่องเที่ยวใดๆ ตามที่นักการเมือง และข้าราชการนิยมทำได้อีกต่อไป หากว่าเกิดโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้น เพราะไม่มีกิจกรรมใดที่จะได้รับการมาเยือนจากใครก็ตามบนโลกใบนี้หากอยู่ภายใต้ควันถ่านหิน
ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดลงแรงอย่างแข็งขันเพื่อให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ และนำไปสู่การยุติกระบวนการต่างๆ ที่จะนำไปสู่การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่กำลังเร่งรัดในขณะนี้ เราในฐานะประชาชนคนอันดามัน และคนทั้งประเทศจะร่วมปกป้องแผ่นดินอันดามันอย่างสุดกำลัง และหลังจากนี้อีก 15 วัน ก็จะมาตามเรื่องว่าทางจังหวัดได้ส่งแถลงการณ์ฉบับนี้ให้ทางรัฐบาลหรือยัง เพื่อทางกลุ่มฯ จะได้จัดการเคลื่อนไหวคัดค้านต่อไป