ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ควบคุมตัวโกโต้งพร้อมพวกรวม 4 คน ฝากขังศาลจังหวัดนาทวี หลังสอบสวนเสร็จแล้ว แต่ยังไม่มีการออกหมายจับหรือจับผู้ต้องหาเพิ่ม ด้านญาติ นางทัศนีย์ สุวรรณรัตน์ หนึ่งในผู้ต้องหาขอความเป็นธรรม อ้างไม่เคยมีความเกี่ยวข้องต่อโกโต้ง และการค้ามนุษย์ ทนายยื่นเรื่องขอตัวไปฉีดคีโมเนื่องจากป่วยเป็นมะเร็งเต้านม
วันนี้ (20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า ร่วมกันแถลงถึงความคืบหน้าคดีว่า ล่าสุด ยังไม่มีการออกหมายจับ หรือจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม ตัวเลขของการออกหมายจับอยู่ที่ 71 ราย จับกุมได้แล้ว 34 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามจับกุมอีก 37 ราย รวมทั้งกำลังดำเนินการยึดทรัพย์เพิ่มเติมจากที่ได้อายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราวประมาณ 81 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เจ้าหน้าที่จะควบคุมผู้ต้องหา 4 คน ที่ได้เข้ามอบตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนาทวี เป็นผลัดแรก หลังสอบสวนเสร็จแล้ว ประกอบด้วย นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีต นายก อบจ.สตูล นางทัศนีย์ สุวรรณรัตน์ นายอนุสรณ์ สุขเกษม หรือโกเล้ง และ พ.ต.ท.ชาญ อู่ทอง สารวัตรอำนวยการ สภ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ส่วน ร.ต.ท.นราธร สัมพันธ์ รองสารวัตรสืบสวนตำรวจภูธร จ.ระนอง ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ทั้งนี้ ผลการสอบสวนโกโต้ง และผู้ต้องหาคนอื่นๆ ยังให้การปฏิเสธทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ในวันนี้ได้มีญาติของ นางทัศนีย์ หนึ่งในผู้ต้องหา พร้อมทนายความได้เดินทางมายัง สภ.หาดใหญ่ เพื่อยื่นเรื่องจากศาลขอตัวไปฉีดคีโมที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เนื่องจากป่วยเป็นมะเร็งเต้านม และแพทย์ได้นัดหมายในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้รับการผ่าตัดมาแล้ว และญาติยังได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ นางทัศนีย์ โดยระบุว่า ไม่เคยมีความสัมพันธ์ หรือรู้จักกับโกโต้ง ตามที่เป็นข่าว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการค้ามนุษย์ แต่ยอมรับว่า พี่สาวซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้วเกี่ยวข้องต่อการลักลอบนำเข้าแรงงานพม่า และได้ยืมรถกระบะซึ่งเป็นชื่อของ นางทัศนีย์ ไปใช้ และมาทราบภายหลังว่าถูกนำไปขนชาวโรฮีนจา และประสบอุบัติเหตุที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช โดยนางทัศนีย์ ทำธุรกิจเกี่ยวกับลานรับซื้อปาล์ม นากุ้ง และธุรกิจยางพารา
