ยะลา - กองกำลังผสมคุมเข้มพื้นที่เขตเทศบาลเมืองเบตง หลังเกิดเหตุระเบิดอย่างต่อเนื่อง เตรียมเพิ่มมาตรการความปลอดภัย หลังหน่วยข่าวคาดเป็นกลุ่มนักรบ “มูจาฮีดินปัตตานี” แสดงศักยภาพในการก่อเหตุความรุนแรง
วันนี้ (15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดำรง ดีสกุล นายอำเภอเบตง จ.ยะลา ได้เรียกประชุมกำชับเจ้าหน้าที่กองกำลังผสมของ อ.เบตง เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่อย่างเข้มงวด หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลนครยะลาหลายจุด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย โดยเน้นย้ำให้ตำรวจภูธร ตชด. ทหารพราน และฝ่ายปกครอง ปฏิบัติงานร่วมกันอย่างเข้มข้น โดยให้มีการออกลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อตรวจสอบรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ผ่านเข้าออกย่านการค้า และเศรษฐกิจ
ซึ่งพื้นที่สุมเสี่ยงที่มีประชาชน และนักท่องเที่ยวพลุกพล่านในเขตเทศบาลเมืองเบตง รวมทั้งกำชับโรงแรม สถานประกอบการทุกแห่งตรวจบัตรประชาชนของผู้เข้าพัก และผู้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งกลุ่มคนร้ายอาจแฝงตัวเข้ามาเพื่อลอบวางระเบิด โดยเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจทั้งด่านถาวร และด่านลอย ได้มีการตรวจสอบบุคคล และยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกอย่างเข้มงวด พร้อมกับเปรียบเทียบบุคคลต้องสงสัยจากแฟ้มประวัติคดีความมั่นคงในพื้นที่ ทั้งระดับแกนนำ และสมาชิกแนวร่วมอย่างละเอียด
ขณะเดียวกัน ให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ และแจ้งเตือนไปยังร้านสะดวกซื้อ และผู้ประกอบการต่างๆ เฝ้าระวังบุคคลแปลกหน้า รถแปลกถิ่น และสิ่งของแปลกที่ที่อาจลักลอบเข้ามาภายในร้านเพื่อวางระเบิดป่วนได้
นอกจากนี้ มีรายงานจากหน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การก่อเหตุในพื้นที่ จ.ยะลา รวม 16 จุดในครั้งนี้ อาจจะเป็นกลุ่มของนักรบ “มูจาฮีดินปัตตานี” ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยต่อการพูดคุยสันติภาพ ที่รัฐบาลต้องการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น พูโล และกลุ่มต่างๆ โดยกลุ่มมูจาฮีดิน เป็นกลุ่มที่ยังยึดมั่นการแบ่งแยกดินแดน หรือการเป็นเขตปกครองพิเศษตามอุดมการณ์ ซึ่งในกลุ่มนี้มีเยาวชน และปัญญาชนเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหว
โดยได้กำเนิดยุทธวิธีการชักนำเยาวชนวัยรุ่นที่ติดยาเสพติดเข้าร่วมขบวนการ เนื่องจากสามารถสอนให้ก่อการร้ายได้ง่าย วิธีการหลักที่กลุ่มเหล่านี้ใช้ คือ การก่อการร้ายในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการลอบวางระเบิด วางเพลิงสถานที่สำคัญ และชุมชน ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดน สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี นราธิวาส
โดยที่ผ่านมา ขบวนการบีเอ็นพีพี บีอาร์เอ็น และพูโล ได้ผนึกกำลังกันเป็น “มูจาฮีดีนปัตตานี” เมื่อปี พ.ศ.2530 และยังไม่ปรากฏข่าวสารที่แน่ชัดว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง มูจาฮีดีนปัตตานี GMIP กับ มูจาฮีดีนมาเลเซีย KMM เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 กลุ่ม แต่คาดว่าในเบื้องลึกแล้วทั้ง 2 กลุ่มน่าจะมีความสัมพันธ์กันในระดับหนึ่ง เช่น ความสัมพันธ์ด้านจิตใจ โดยการแสดงออกในลักษณะเห็นอกเห็นใจกันในฐานะเป็นกลุ่มที่มีอุดมการณ์ต่อสู้ในแนวทาง และเป้าหมายคล้ายคลึงกัน หรืออาจมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการต่อสู้
โดยหน่วยข่าวความมั่นคงเปิดเผยว่า จากรูปแบบการก่อเหตุของกลุ่มมูจาฮีดิน จะมีเป้าหมายอยู่ที่สถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งบันเทิงที่เป็นอบายมุข โดยเน้นการทำลายเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และมีข้อสังเกตว่า การกระทำของกลุ่มนี้จะไม่เน้นในการให้เกิดมีผู้คนล้มตาย แต่เน้นให้เห็นว่า กลุ่มของตนมีศักยภาพในการก่อเหตุความรุนแรงได้
