ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแถลงความคืบหน้าเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮีนจา ออกหมายจับเพิ่มอีก 1 คน เป็น 51 คน และเตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 1 ชุด ประสานตำรวจสากลจับกุมผู้หลบหนีออกนอกประเทศ ขณะที่ผลการตรวจค้นเครือข่ายโกโต้ง เจ้าหน้าที่ยึดทรัพย์สินกว่า 10 ล้านบาท ไปตรวจสอบ
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮีนจา แถลงถึงความคืบหน้าภาพรวมของคดีทั้งหมด โดยระบุว่า ล่าสุด ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้วทั้งสิ้น 51 คน ควบคุมตัวได้แล้ว 19 คน และยังอยู่ระหว่างการจับกุม 32 คน และในวันนี้จะเสนอขออนุมัติศาลจังหวัดนาทวี ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 1 ชุด เนื่องจากยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องมากกว่านี้ทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา สตูล และ ระนอง ส่วนผู้ต้องหาที่คาดว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศนั้นจะประสานไปยังตำรวจมาเลเซีย และส่งหมายจับทั้งหมดไปยังตำรวจสากลเพื่อขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ส่วนตัวเลขของผู้อพยพที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 276 คน แยกเป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง 213 คน และตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 63 คน และในจำนวนผู้อพยพพบว่ามี 4 คนที่ทำหน้าที่เป็นผู้คุม และตรวจสอบพบแคมป์บนเทือกเขาแก้ว จำนวน 73 แคมป์ ซึ่งล่าสุด พบอีก 1 แห่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบ
ส่วนผลการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 15 แห่ง ในพื้นที่ จ.สตูล เมื่อวานนี้ โดยเฉพาะเป้าหมายที่เกี่ยวข้องต่อ นายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล นั้น เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถยนต์ 2 คัน พร้อมคู่มือ อาวุธปืน 2 กระบอก เครื่องกระสุน 17 นัด แผ่นป้ายทะเบียนประมูล 3 แผ่น ราคาประมูล 2 ล้านบาท รถเบนซ์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ โรงแรม 1 แห่งรวม 28 ห้อง เรือสปีดโบต 1 ลำ และเรือประมงดัดแปลงที่คาดว่าใช้ขนผู้อพยพ 1 ลำ รวมทรัพย์สินทั้งสิ้นประมาณ 10 ล้านบาท โดย ปปง.ได้ตรวจสอบที่ดินใน จ.สตูล อีกหลายแปลง และตรวจยึดไว้ตรวจสอบทั้งหมด
ด้านตัวแทนของ ปปง.เปิดเผยว่า ทาง ปปง.กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินและยึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้องค่อขบวนการค้ามนุษย์ทั้งหมดทั้งในพื้นที่ภาค 8 และภาค 9 ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งจะนำกฎหมายฟอกเงินมาตรวจสอบทรัพย์สิน
ส่วนความคืบหน้าในการสอบสวนนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 19 ปาก รวมทั้งกลุ่มผู้อพยพอีก 8 ปาก ซึ่งทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และพยานทุกคนเจ้าหน้าที่จะคุ้มครองดูแลเป็นอย่างดี นอกจากนี้ จะมีการเปิดศาลเพิ่มในวันเสาร์อาทิตย์เพื่อสืบพยานล่วงหน้าเพื่อให้การดำเนินคดีรวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนข้าราชการท้องถิ่นที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำเรื่องเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลดออกจากตำแหน่งทั้งหมด
