ระนอง - นายอำเภอเมืองระนอง สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ สภ.ราชกรูด ลงตรวจสอบเกาะหมู ท่าเรือ และป่าชายเลน จุดเสี่ยงที่เป็นข่าวว่าชาวโรฮีนจาจะขึ้นฝั่ง ทั้งทางเรือ และทางบก ไม่พบสิ่งผิดสังเกตแต่อย่างใด พร้อมขอความร่วมมือชาวประมงแจ้งเบาะแส
วันนี้ (11 พ.ค.) นายธนิต กุลสุนทร นายอำเภอเมืองระนอง สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ชุด ชพส.ที่ 4107 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชกรูด และชุด ชรบ. พร้อมอาวุธครบมือกว่า 30 นาย ออกตรวจสอบเกาะหมู และบริเวณท่าเรือวังหอย ม.6 ต.ราชกรูด จ.ระนอง ภายหลังจากที่ปรากฏข่าวว่าพบเรือบรรทุกชาวโรฮีนจาลอยลำในน่านน้ำฝั่งทะเลอันดามัน และกำลังจะหาทางขึ้นฝั่งบริเวณดังกล่าว จึงพร้อมกำลังลงเรือลาดตระเวน โดยเน้นเข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่เกาะหมู และบริเวณท่าเรือวังหอย ม.6 ต.ราชกรูด อ.เมือง ระนอง รวมถึงป่าชายเลนที่เป็นจุดล่อแหลม พื้นที่เป้าหมายในการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวในการนำพาชาวโรฮีนจาขึ้นฝั่งของขบวนการค้ามนุษย์ ในพื้นที่เขตอำเภอเมืองระนอง
เบื้องต้น จากการตรวจสอบพื้นที่เกาะหมูทั่วทั้งเกาะ รวมไปถึงพื้นที่บริเวณท่าเรือวังหอย รวมระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ทั้งการลาดตระเวนทางน้ำ และวิธีการเดินเท้าบนบก เพื่อเข้าตรวจสอบ และค้นหาสถานที่ที่อาจจะใช้เป็นที่พักพิง หลบซ่อนตัว หรือแคมป์ที่พักของชาวโรฮีนจา จากการตรวจสอบยังไม่พบการลักลอบ หรือหลบซ่อนตามจุดต่างๆ ที่เคยรับแจ้งแต่อย่างใด
นายธนิต กุลสุนทร นายอำเภอเมืองระนอง กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณเกาะหมูและท่าเรือวังหอย ซึ่งปรากฏเป็นข่าวสารทางสื่อสาธารณะว่าเป็นพื้นที่เป้าหมายในการนำพาชาวโรฮีนจาขึ้นฝั่งของขบวนการค้ามนุษย์ จากการสอบถามข้อมูลชาวบ้านผู้อยู่อาศัยบริเวณดังกล่าว ทำให้ทราบว่า ข่าวสารที่ปรากฏต่อสื่อในปัจจุบันเป็นข้อมูลเก่าผ่านมา 5-6 ปีแล้ว ในปัจจุบันไม่มีชาวพม่า หรือโรฮีนจา มาขึ้นฝั่งบริเวณเกาะหมู หรือท่าเรือดังกล่าวแต่อย่างใด
ในส่วนของพื้นที่อำเภอเมืองระนอง เป็นพื้นที่เสี่ยง และอยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-พม่า ซึ่งตนได้สั่งการกำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเร่งขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ที่ออกไปทำการประมงกลางทะเล หากพบเห็นว่ามีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่า หรือโรฮีนจามาหลบซ่อนตามแนวตะเข็บชายแดน ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้ยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด