สตูล - รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบเส้นทางอพยพชาวโรฮินจา ใน จ.สตูล พร้อมแถลงข่าวการจับกุม ส.อบจ.สตูล เพิ่มอีก 1 ราย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยึดเรือ 2 ลำ คาดใช้เป็นเรือขนถ่ายเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ เร่งล่า “เสี่ย ต.” ตัวการใหญ่
วันนี้ (10 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่จังหวัดสตูล เพื่อแกะรอยเส้นทางลำเลียงชาวโรฮีนจา โดยเริ่มจากเส้นทางลงเรือที่บ้านบ่อเจ็ดลูก ต.ปากน้ำ และบ้านบุโบย ต.แหลมสน อ.ละงู จากนั้นจะมีการนำกลุ่มชาวโรฮีนจามาชี้ยังจุดลงเรือ และรอเพื่อขึ้นรถไปส่งต่อยังจุดหมายปลายทางตามคำบอกเล่าที่ด่านชายแดนวังประจัน ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล ซึ่งชาวโรฮีนจาต้องใช้วิธีในการเดินเท้าตามคำบอกเล่าอีก 7 กิโลเมตร ก่อนจะถึงจุดหมายปลายทางฝั่งชายแดน ต.ปาดังเปซาร์ เพื่อรวมตัวกันรอการมารับตัวต่อจากผู้ต้องการใช้แรงงานตามคำบอกเล่าของชาวโรฮีนจา
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ซึ่งในเรื่องนี้จะมีการพูดคุยกับทางการมาเลเซียถึงการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ ส่วนเครือข่ายที่เกี่ยวข้องขณะนี้มีการเชื่อมโยงไปยังหลายองค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจ นักการเมือง และอีกหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง และในวันนี้ได้มีการแถลงข่าวการจับกุม นายอาบู ฮะอุรา ส.อบจ.สตูล ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนวังประจัน ในข้อหาเกี่ยวพันต่อคดีนำพาชาวโรฮีนจามาสอบสวนตามหมายศาลจังหวัดนาทวีด้วย ส่วนจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้นต้องรอผลการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่ม ส่วน ส.อบจ.อาบู ฮะอุรา จะมีการประสานให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ให้มีการออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ก่อนเพื่อตรวจสอบ
พร้อมกันนี้ คณะรอง ผบ.ตร.ลงตรวจสอบเรือ หลังชุดตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ได้ตรวจยึดเรือประมงไม้ดัดแปลง ขนาด 57 ตันกลอส ที่สามารถขนคนได้มากกว่า 300 คน และเรือเร็วสปีดโบต ขนาด 4 เครื่องยนต์ ที่เชื่อว่าจะเป็นเรือที่ใช้ในการลำเลียงกลุ่มชนน้อยชาวโรฮีนจา
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีตัวการใหญ่ขบวนการขนชาวโรฮีนจาในพื้นที่จังหวัดสตูล คือ เสี่ย ต. ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วนั้น ทางรอง ผบ.ตร.บอกว่า ได้สั่งให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบว่าเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้แม้ยังไม่ได้ออกหมายจับแต่ได้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งหากหลบหนีจริงคดีมีอายุความหลายปี ยังสามารถจะตามจับกุม และดำเนินการทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศไทยได้
