ฉะเชิงเทรา - พายุฝนพัดกระหน่ำเมืองแปดริ้ว ทำให้เรือสปีดโบตนักตกปลาล่มกลางลำน้ำบางปะกง 3 หนุ่มใหญ่ลอยคอล่องตามกระแสน้ำที่ไหลลงอย่างเชี่ยวกราก เคว้งไกลกว่า 1 กม. โชคดีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือไว้ได้อย่างปลอดภัย ขณะเจ้าตัวระบุนำเรือใหม่มาทำการทดสอบ ก่อนประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำเองหลังถูกคลื่นลมซัด
วันนี้ (24 มี.ค.) ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 แปดริ้ว ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุจากผู้พบเห็นเหตุการณ์ว่า ได้พบชาย 3 คน กำลังลอยคอเกาะตัวเรือที่พลิกคว่ำจมอยู่ในน้ำ บริเวณกลางลำน้ำบางปะกง ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอบางปะกง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ ม.6 ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมร้องขอความช่วยเหลือให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยทำการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุดังกล่าว
หลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางไปถึงยังที่เกิดเหตุ พบเรือลำดังกล่าวได้ถูกชาวบ้านได้ให้การช่วยเหลือลากเข้ามาประชิดยังชายฝั่ง บริเวณแนวป่าชายเลนด้านข้างที่ว่าการ อ.บางปะกง แล้ว
สอบถาม นายชาติ มิ่งมงคล อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 301/25 ม.15 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เจ้าของเรือลำดังกล่าว กล่าวว่า ตนพร้อมเพื่อนคือ นายสนอง พึ่งรอด อายุ 53 ปี และน้องชายคือ นายมณี มิ่งมงคล อายุ 53 ปี ได้นำเรือสปีดโบตขนาดเล็ก ความกว้างประมาณ 2 เมตร ยาว 5 เมตร มาลงที่ท่าลงเรือด้านหลังที่ว่าการ อ.บางปะกง เพื่อนำมาทำการทดสอบการใช้งาน หลังจากที่เพิ่งซื้อเรือลำใหม่มาไว้ใช้สำหรับตกปลาได้ไม่นาน
โดยในวันนี้ได้พากันเดินทางมาตั้งแต่เมื่อช่วงเวลา 10.00 น. และได้ขับเรือออกไปตามลำน้ำประมาณ 1 ชม. จนใกล้จะถึงบริเวณปากอ่าว ซึ่งมีเกาะกลางน้ำ จึงเลี้ยวกลับมายังที่บริเวณด้านหน้าที่ว่าการอำเภออีกครั้ง เพื่อพักกลางวันแวะกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านค้าด้านหน้าอำเภอ ก่อนที่จะนำเรือขับเพื่อทำการทดสอบอีกครั้ง
นายชาติ กล่าวต่อไปว่า แต่ขณะที่กำลังพากันขับเรือขึ้นไปตามลำน้ำจนใกล้จะถึงบริเวณด้านหน้าวัดท่าสะอ้านแล้ว จึงเปลี่ยนใจที่จะขับเรือขึ้นไปทางด้านตอนบนของลำน้ำ โดยน้องชายซึ่งเป็นคนขับได้ทำการเลี้ยวเรือลักษณะตีวงเลี้ยวแคบมากเกินไป จึงทำให้คลื่นซัดน้ำขึ้นมาเข้าสู่ตัวเรือที่ด้านหัวเรือ ประกอบกับขณะนั้นเป็นช่วงที่ใกล้ฝนจะตก และมีกระแสของลมฝนพัดแรงด้วย จึงทำให้เรือโคลง และจมลงอย่างรวดเร็ว
หลังเรือจมก็พากันลอยคอเกาะที่กาบเรือไหลล่องลงมาตามลำน้ำ ตามกระแสการไหลลงของระดับน้ำทะเลอย่างรวดเร็ว จนผ่านมาถึงยังบริเวณด้านหน้าที่ว่าการอำเภอบางปะกงอีกครั้ง จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อยู่บริเวณด้านหน้าที่ว่าการอำเภอ จึงมีชาวบ้านนำเรือเข้ามาช่วย ลากเข้ามาสู่ชายตลิ่งริมป่าชายเลน และมีหน่วยกู้ภัยฯ เข้ามาให้การช่วยเหลืออีกครั้ง
