ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดสงขลา เร่งผลิตลูกปลาตะกรับ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าปลาขี้ตัง หลังเกษตรกรสั่งจองพันธุ์ปลายอดพุ่งสูง จนผลิตไม่ทัน ขณะเดียวกัน ได้ปรับปรุงและพัฒนาการผลิตโดยการแปลงเพศให้เป็นปลาเพศเมียทั้งหมด เนื่องจากปลาตะกรับเพศเมียตัวใหญ่มีไข่ ราคาดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดสงขลา เร่งทำการเพาะพันธุ์ปลาตะกรับ หรือที่รู้จักกันในชื่อปลาขี้ตังอย่างเต็มที่ หลังจากที่เกษตรกรในทะเลสาบสงขลามีความสนใจหันมาเลี้ยงปลาตะกรับ หรือปลาขี้ตังมากขึ้น รวมทั้งมีการสั่งจองลูกปลาเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนทางสถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดสงขลาผลิตให้ไม่ทัน
โดยทางสถาบันฯ ผลิตลูกปลาโดยใช้วิธีผสมเทียม นำพ่อแม่พันธุ์ปลาขี้ตังมาทำการฉีดผสมเทียมกระตุ้นด้วยฮอร์โมน และรีดไข่ผสมเทียม เนื่องจากยังเหลือระยะเวลาในการผสมเทียมเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียวเท่านั้น ก็จะพ้นช่วงที่ปลาขี้ตังวางไข่ และจะเร่งเพาะพันธุ์ปลาขี้ตังให้ได้มากที่สุดในช่วงนี้
นายยงยุทธ ปรีดาลัมพะบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ได้พัฒนาเทคนิควิธีเพาะขยายพันธุ์ปลาตะกรับ โดยการปรับปรุงเรื่องอาหารมีชีวิต ทำให้สามารถเพาะพันธุ์ปลาตะกรับได้มากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา และจำหน่ายให้แก่เกษตรกร จำนวน 30 ราย บริเวณโดยรอบทะเลสาบสงขลา เนื่องจากปลาตะกรับได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั้งครัวเรือน และร้านอาหาร โดยเฉพาะนำไปแกงส้ม และราคาปลาสูงขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุง และพัฒนาการผลิตโดยการแปลงเพศให้เป็นปลาตะกรับเพศเมียทั้งหมด เนื่องจากปลาตะกรับเพศเมียตัวใหญ่กว่าเพศผู้ และมีไข่ ราคามันสูงกว่า ตอนนี้การทดลองได้ผลประมาณ 80% แล้ว โดยสามารถที่จะแปลงเพศเป็นเพศเมียในช่วงตัวเล็กๆ หากประสบผลสำเร็จ 100% ก็จะนำเผยแพร่ต่อไป
เกษตรกรที่สนใจที่จะเลี้ยงปลาตะกรับเพิ่มขึ้น เพราะปลาตะกรับเป็นปลาที่มีคุณภาพสูง เลี้ยงประมาณ 6-7 เดือน จับขาย กก.ละ 300 บาท โดยเฉพาะตัวเมีย
เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำชนิดอื่นแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ก็อยากจะเชิญชวนให้มาเลี้ยงปลาตะกรับ เพราะปัญหาการเลี้ยงน้อย และเป็นปลากินพืชจึงมีต้นทุนการเลี้ยงน้อย