สุราษฎร์ธานี- หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ลงตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมระบุเป็นห่วงชาวสวนยาง ราคายางไม่ขยับ และมีแนวโน้มลดลง ส่วนเรื่องคาร์บอมบ์ที่สมุย ยันไม่กระทบต่อเศรษฐกิจ แต่เป็นห่วงเรื่องขยะที่สะสมอยู่กว่า 200,000 ตัน อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ ย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งแก้ไข
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (18 เม.ย.) หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามการทำงานศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมประชุมร่วมกับ นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้รายงานถึงปัญหาขยะที่ล้นเกาะสมุย ที่มีมากกว่า 200,000 ตัน ที่ยังมีสะสมอยู่บนเกาะ อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องจากปัญหาทางเทศบาลนครเกาะสมุย กับบริษัทคู่สัญญารับกำจัดขยะมีปัญหาจึงทำให้ขยะมีการสะสมจำนวนมาก ขณะนี้ทางจังหวัดกำลังเร่งดำเนินการหาบริษัทใหม่มาดำเนินการนำขยะออกจากพื้นที่
หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร กล่าวถึงปัญหาสำคัญเร่งด่วนในเรื่องของยางพารา ราคาอาจคงที่ไปอีกเป็นปี หรืออาจมีแนวโน้มลดลงตามราคาน้ำมันของโลกที่ตกไป และยางเทียมเข้ามาแทนที่ยางพารา ขณะนี้ทางรัฐบาลกำลังหาทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางอย่างต่อเนื่อง โดยเร่งผลักดันให้ ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อปรับปรุงสวนยางให้แก่ชาวสวนยางที่ผ่านคณะกรรมการจังหวัดกลั่นกรองมาแล้วกว่า 80,000 ราย และได้รับการอนุมัติจ่ายเงินไปแล้วกว่า 20,000 ราย และยังตกค้างกว่า 60,000 ราย เพื่อจะให้ชาวสวนยางจะได้มีเงินไปปรับปรุงสวนยางให้ทันฤดูกาลหน้า จึงขอให้เกษตรกรชาวสวนยางอดทนไปก่อน พร้อมร้องขออย่าปลูกยางพาราในช่วงนี้ ขอให้ปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนไปก่อน ส่วนตลาดผลไม้ของภาคใต้ยังมีโอกาสขยายตัว และราคาดี
ส่วนเหตุคาร์บอมบ์ ที่เกาะสมุย หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร ยังได้กล่าวยืนยันว่า ไม่กระทบแต่อย่างใด ซึ่งได้รับฟังมาจากหลายคนว่า เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่ได้มุ่งหมายเอาชีวิตใคร เป็นการหยอกล้อทางด้านการเมือง ก็ปล่อยให้ทางฝ่ายความมั่นคงดำเนินการจัดการไป จึงไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม แต่เป็นห่วงเรื่องของขยะที่สะสมอยู่บนเกาะสมุยมากกว่า และคาดว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัด จะดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็ว
ในขณะเดียวกัน ได้มีนายวิทยา ศรีภิรมย์มิตร ตัวแทนกลุ่มองค์กรภาคประชาชน เข้ายื่นหนังสือขอให้ทางรัฐบาลเร่งดำเนินการจัดสรรที่ดินทำกินให้ราษฎรผู้ไม่มีที่ดินทำกินในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งทางรองนายกฯ รับปากจะนำเรื่องเสนอต่อรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการต่อไป
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (18 เม.ย.) หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามการทำงานศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมประชุมร่วมกับ นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้รายงานถึงปัญหาขยะที่ล้นเกาะสมุย ที่มีมากกว่า 200,000 ตัน ที่ยังมีสะสมอยู่บนเกาะ อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องจากปัญหาทางเทศบาลนครเกาะสมุย กับบริษัทคู่สัญญารับกำจัดขยะมีปัญหาจึงทำให้ขยะมีการสะสมจำนวนมาก ขณะนี้ทางจังหวัดกำลังเร่งดำเนินการหาบริษัทใหม่มาดำเนินการนำขยะออกจากพื้นที่
หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร กล่าวถึงปัญหาสำคัญเร่งด่วนในเรื่องของยางพารา ราคาอาจคงที่ไปอีกเป็นปี หรืออาจมีแนวโน้มลดลงตามราคาน้ำมันของโลกที่ตกไป และยางเทียมเข้ามาแทนที่ยางพารา ขณะนี้ทางรัฐบาลกำลังหาทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางอย่างต่อเนื่อง โดยเร่งผลักดันให้ ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อปรับปรุงสวนยางให้แก่ชาวสวนยางที่ผ่านคณะกรรมการจังหวัดกลั่นกรองมาแล้วกว่า 80,000 ราย และได้รับการอนุมัติจ่ายเงินไปแล้วกว่า 20,000 ราย และยังตกค้างกว่า 60,000 ราย เพื่อจะให้ชาวสวนยางจะได้มีเงินไปปรับปรุงสวนยางให้ทันฤดูกาลหน้า จึงขอให้เกษตรกรชาวสวนยางอดทนไปก่อน พร้อมร้องขออย่าปลูกยางพาราในช่วงนี้ ขอให้ปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนไปก่อน ส่วนตลาดผลไม้ของภาคใต้ยังมีโอกาสขยายตัว และราคาดี
ส่วนเหตุคาร์บอมบ์ ที่เกาะสมุย หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร ยังได้กล่าวยืนยันว่า ไม่กระทบแต่อย่างใด ซึ่งได้รับฟังมาจากหลายคนว่า เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่ได้มุ่งหมายเอาชีวิตใคร เป็นการหยอกล้อทางด้านการเมือง ก็ปล่อยให้ทางฝ่ายความมั่นคงดำเนินการจัดการไป จึงไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม แต่เป็นห่วงเรื่องของขยะที่สะสมอยู่บนเกาะสมุยมากกว่า และคาดว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัด จะดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็ว
ในขณะเดียวกัน ได้มีนายวิทยา ศรีภิรมย์มิตร ตัวแทนกลุ่มองค์กรภาคประชาชน เข้ายื่นหนังสือขอให้ทางรัฐบาลเร่งดำเนินการจัดสรรที่ดินทำกินให้ราษฎรผู้ไม่มีที่ดินทำกินในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งทางรองนายกฯ รับปากจะนำเรื่องเสนอต่อรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการต่อไป
