xs
xsm
sm
md
lg

นายอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา นำทีมจับผู้ต้องหาลอบตัดไม้เขตหวงห้าม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พังงา - เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าจังหวัดพังงา จับกุมผู้ลักลอบตัดไม้หวงห้ามในเขตป่าต้นน้ำ ป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมของกลางไม้แปรรูป จำนวน 255 แผ่น มูลค่านับล้านบาท

นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมด้วย นายเจษฎา ธิติมุทา ปลัดอำเภอตะกั่วป่า นายอิสรินทร์ ส่งละออง ปลัดอำเภอศูนย์ดำรงธรรม นายนิทัศน์ โรจนสารัมภกิจ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พง.3 (ตะกั่วป่า) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ พง.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่กองร้อย อส.ตะกั่วป่าที่ 7 เจ้าหน้าที่ ชรบ.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้าไปตรวจสอบ และจับกุมผู้ต้องหาลักลอบตัดไม้หวงห้ามนำมาแปรรูปในพื้นที่ หมู่ 4 บ้านบางใหญ่ ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังจากได้รับการร้องเรียนว่ามีการตัดไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขาบางปริก และป่าบางอี

โดยสามารถจับกุม นายสุทัศน์ สงไข อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/15 ม.4 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งกำลังลำเลียงไม้แปรรูปโดยใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างฮอนด้าดรีม สีแดง หมายเลขทะเบียน กจษ 909 พังงา เป็นพาหนะบรรทุกไม้พะยูงแปรรูป จำนวน 23 แผ่น ออกมาจากในซอยโรงเรียนบ้านบางใหญ่ พร้อมกับ นายนายสมคิด โพธิกุล หรือบังหมาน อยู่บ้านเลขที่ 5/7 ม.4 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม แต่นายสมคิด ไหวตัวทันสามารถหนีรอดการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตะกั่วป่า ทราบว่า นายสุทัศน์ กำลังบรรทุกไม้ออกมาจากป่าเพื่อนำไม้ไปจำหน่ายให้แก่ นายยุทธนา วงศ์พานิช หรือเปิ้ล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ถ.เสนาราษฎร์ ต.ตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อนำไปสร้างเป็นโรงเรือนสำหรับเลี้ยงแกะในซอยคอกไก่ เจ้าหน้าที่จึงได้ตามไปตรวจสอบที่บ้านของนายเปิ้ล พบสิ่งปลูกสร้างปลูกเป็นโรงเรือนเลี้ยงแกะจริง และมีไม้แปรรูปวางกองอยู่บริเวณใกล้กับโรงเรือนเลี้ยงแกะ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ

จึงได้สอบสวนขยายผลทราบว่า นายสุทัศน์ และนายสมคิด ที่หลบหนีการจับกุมไปได้ ได้ร่วมกันแปรรูปไม้บริเวณเขาอ่าวผ้าเผียน โดยนายเปิ้ล ได้ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ได้รับการติดต่อจากนายสุทัศน์ และนายสมคิด (บังหมาน) ว่า มีไม้ที่แปรรูปแล้วมาจำหน่ายให้ ตนจึงได้ตกลงซื้อไว้ โดยนายสุทัศน์ และนายสมคิด ได้ทยอยนำไม้ที่แปรรูปมาให้บ้างแล้วบางส่วน จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ไม้ไม่มีร่องรอยตราประทับของเจ้าหน้าที่ไว้แต่อย่างใด โดยไม้ที่พบเป็นไม้พะยูง ไม้ตะเคียน ไม้สามพอง ไม้จำปา ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2530 จำนวน 255 แผ่น มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณเขาป้าเผียน พบว่า เป็นจุดที่ทำการแปรรูปไม้ มีต้นไม้ถูกตัดโค่นล้ม พบว่า เป็นไม้พะยูง และแปรรูปแล้ว จำนวน 14 แผ่น อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขาบางปริก และป่าบางอี โดยไม้บางส่วนได้ถูกทยอยขนย้ายออกไปล่วงหน้าแล้วก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมา เป็นไม้ที่ไม่มีรูปรอยดวงตาของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีตราประทับไว้เพื่อแสดงการอนุญาตแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยึดไม้ทั้งหมดไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจสอบ โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ นายยุทธนา และนายสุทัศน์ ว่ากระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 48 ฐาน ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้มีไม้หวงห้ามแปรรูปเป็นจำนวนเกิน 0.20.มิลลิลิตร ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตะกั่วป่า ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น