กระบี่ - พบแล้วร่างเด็กหญิงนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล อายุ 12 ปี ที่สูญหาย ขณะเกิดเหตุไหไหม้เรือโดยสาร พบกลายเป็นศพจมอยู่ใกล้เรือลำที่เกิดเหตุในระดับน้ำลึก 22 เมตร เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลกระบี่ เพื่อตรวจขันสูตรแล้ว ขณะที่ครอบครัวยังทำใจไม่ได้หลังต้องสูญเสียลูกสาวคนโตจากเหตุการณ์ครั้งนี้
จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้เรือโดยสารอ่าวนางปริ้นเซส 5 ของบริษัทอ่าวนางเทรเวล เส้นทางภูเก็ต-พีพี เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) จนเป็นเหตุให้เด็กหญิง ด.ญ.ซานิ มารีล อายุ 12 ปี สัญชาติอิสราเอล สูญหาย โดยทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นายณรงค์ วุ่นซิ้ว รอง ผวจ.กระบี่ พร้อมด้วยนายนิยม ผิวดี กำนันตำบลอ่าวนาง หน่วยปฏิบัติการพิเศษจากทัพเรือภาคที่ 3 และสถานีตำรวจน้ำกระบี่ ทหารเรือ นักประดาน้ำของมูลนิธิสันติสุข ลงค้นหาจุดที่พบเรือลำดังกล่าว เพื่อค้นหาผู้สูญหายตั้งแต่เวลา 08.30 น. วันนี้ (9 เม.ย.)
หลังเจ้าหน้าลงไปดำน้ำค้นหาบริเวณรอบๆ ตัวเรือประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากการค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก ประกอบกับคลื่นลมแรง แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ย่อท้อทุ่มกำลังอย่างเต็มที่ โดยเรือจมอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร จนกระทั่งล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำก็พบร่างของเด็กหญิงรายดังกล่าวแล้ว โดยจมอยู่นอกเรือที่เกิดเหตุบริเวณกราบเรือด้านซ้ายมือ ในลักษณะแขน-ขาขาด และร่างกายบางส่วนถูกไฟไหม้เกรียม โดยจมอยู่ในทะเลที่ระดับน้ำลึกประมาณ 22 เมตร และขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของเด็กหญิงรายดังกล่าวส่งไปยังโรงพยาบาลกระบี่ เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายณรงค์ กล่าวว่า เหตุการณ์เรือโดยสารวิ่งระหว่างหาดนพรัตน์ธารา จ.กระบี่ กับภูเก็ต เกิดไฟไหม้วานนี้ อยู่ระหว่างรอการตรวจพิสูจน์หลักฐานจากเจ้าหน้าที่เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ในเบื้องต้น คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลดวงจรในห้องเครื่องก่อนที่จะเกิดประกายไฟลุกลามไปชั้นบนตัวเรือ และได้ไหม้ตัวเรืออย่างรวดเร็วจนเรือจมลงในที่สุด จนเป็นเหตุให้มีผู้สูญหาย 1 คน และขณะเจ้าหน้าที่พบร่างของเด็กหญิงรายดังกล่าวเสียชีวิตจมอยู่ใกล้กับเรือลำที่เกิดเหตุแล้ววันนี้พบกลายเป็นศพ
ขณะที่ นางวิยะดา ศรีรางกูล ผอ.ททท.สำนักงานกระบี่ กล่าวถึงการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุเรือโดยสารไฟไหม้กลางทะเล ว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ประสบเหตุเป็นนักท่องเที่ยวที่พักอาศัยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต หลังจากเกิดเหตุทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ และเอกชนได้เข้ามาช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ จนลุล่วงไปด้วยดี และนักท่องเที่ยวทั้งหมดก็ได้เดินทางกลับไปยังจังหวัดภูเก็ตหมดแล้ว เนื่องจากบางคนยังมีโปรแกรมเที่ยวต่อ สำหรับในเรื่องของการอำนวยความสะดวกในเรื่องของการแจ้งเอกสารหาย ทราบว่า ทางจังหวัดภูเก็ต ได้จัดสถานที่อำนวยความสะดวกไว้แล้วด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุ และยังพำนักอยู่ในจังหวัดกระบี่ขณะนี้มีเพียงครอบครัวของเด็กหญิงที่สูญหายเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดกระบี่ ก็ได้ดูแลและอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ อย่างดี
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามข้อมูลในเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการศพของนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตนั้น นางวิยะดา กล่าวว่า ทางญาติยังไม่ระบุว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร เนื่องจากขณะนี้ครอบครัวยังรับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ความสุญเสียที่เกิดขึ้น ซึ่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตเดินทางมาเที่ยวที่ภูเก็ต และกระบี่ด้วยกัน จำนวน 5 คน สำหรับเด็กหญิงอายุ 12 ปี นั้นเป็นลูกสาวคนโตของครอบครัว และมีน้องๆ อีก 2 คน และจากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเด็กหญิงรายดังกล่าวได้เดินไปเข้าห้องน้ำ หลังจากนั้นก็มีเสียงระเบิดและไฟลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณห้องเครื่องซึ่งอยู่ใกล้กับห้องน้ำของเรือ
จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้เรือโดยสารอ่าวนางปริ้นเซส 5 ของบริษัทอ่าวนางเทรเวล เส้นทางภูเก็ต-พีพี เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) จนเป็นเหตุให้เด็กหญิง ด.ญ.ซานิ มารีล อายุ 12 ปี สัญชาติอิสราเอล สูญหาย โดยทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นายณรงค์ วุ่นซิ้ว รอง ผวจ.กระบี่ พร้อมด้วยนายนิยม ผิวดี กำนันตำบลอ่าวนาง หน่วยปฏิบัติการพิเศษจากทัพเรือภาคที่ 3 และสถานีตำรวจน้ำกระบี่ ทหารเรือ นักประดาน้ำของมูลนิธิสันติสุข ลงค้นหาจุดที่พบเรือลำดังกล่าว เพื่อค้นหาผู้สูญหายตั้งแต่เวลา 08.30 น. วันนี้ (9 เม.ย.)
หลังเจ้าหน้าลงไปดำน้ำค้นหาบริเวณรอบๆ ตัวเรือประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากการค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก ประกอบกับคลื่นลมแรง แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ย่อท้อทุ่มกำลังอย่างเต็มที่ โดยเรือจมอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร จนกระทั่งล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำก็พบร่างของเด็กหญิงรายดังกล่าวแล้ว โดยจมอยู่นอกเรือที่เกิดเหตุบริเวณกราบเรือด้านซ้ายมือ ในลักษณะแขน-ขาขาด และร่างกายบางส่วนถูกไฟไหม้เกรียม โดยจมอยู่ในทะเลที่ระดับน้ำลึกประมาณ 22 เมตร และขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของเด็กหญิงรายดังกล่าวส่งไปยังโรงพยาบาลกระบี่ เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายณรงค์ กล่าวว่า เหตุการณ์เรือโดยสารวิ่งระหว่างหาดนพรัตน์ธารา จ.กระบี่ กับภูเก็ต เกิดไฟไหม้วานนี้ อยู่ระหว่างรอการตรวจพิสูจน์หลักฐานจากเจ้าหน้าที่เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ในเบื้องต้น คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลดวงจรในห้องเครื่องก่อนที่จะเกิดประกายไฟลุกลามไปชั้นบนตัวเรือ และได้ไหม้ตัวเรืออย่างรวดเร็วจนเรือจมลงในที่สุด จนเป็นเหตุให้มีผู้สูญหาย 1 คน และขณะเจ้าหน้าที่พบร่างของเด็กหญิงรายดังกล่าวเสียชีวิตจมอยู่ใกล้กับเรือลำที่เกิดเหตุแล้ววันนี้พบกลายเป็นศพ
ขณะที่ นางวิยะดา ศรีรางกูล ผอ.ททท.สำนักงานกระบี่ กล่าวถึงการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุเรือโดยสารไฟไหม้กลางทะเล ว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ประสบเหตุเป็นนักท่องเที่ยวที่พักอาศัยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต หลังจากเกิดเหตุทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ และเอกชนได้เข้ามาช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ จนลุล่วงไปด้วยดี และนักท่องเที่ยวทั้งหมดก็ได้เดินทางกลับไปยังจังหวัดภูเก็ตหมดแล้ว เนื่องจากบางคนยังมีโปรแกรมเที่ยวต่อ สำหรับในเรื่องของการอำนวยความสะดวกในเรื่องของการแจ้งเอกสารหาย ทราบว่า ทางจังหวัดภูเก็ต ได้จัดสถานที่อำนวยความสะดวกไว้แล้วด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุ และยังพำนักอยู่ในจังหวัดกระบี่ขณะนี้มีเพียงครอบครัวของเด็กหญิงที่สูญหายเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดกระบี่ ก็ได้ดูแลและอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ อย่างดี
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามข้อมูลในเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการศพของนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตนั้น นางวิยะดา กล่าวว่า ทางญาติยังไม่ระบุว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร เนื่องจากขณะนี้ครอบครัวยังรับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ความสุญเสียที่เกิดขึ้น ซึ่งครอบครัวของผู้เสียชีวิตเดินทางมาเที่ยวที่ภูเก็ต และกระบี่ด้วยกัน จำนวน 5 คน สำหรับเด็กหญิงอายุ 12 ปี นั้นเป็นลูกสาวคนโตของครอบครัว และมีน้องๆ อีก 2 คน และจากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเด็กหญิงรายดังกล่าวได้เดินไปเข้าห้องน้ำ หลังจากนั้นก็มีเสียงระเบิดและไฟลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณห้องเครื่องซึ่งอยู่ใกล้กับห้องน้ำของเรือ
