กระบี่ - รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นำทีมตำรวจน้ำ เจ้าท่า พร้อมนักประดาน้ำจากทัพเรือภาคที่ 3 ออกค้นหานักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่สูญหาย 1 คน จากกรณีที่เรืออ่าวนางปริ้นเซสเกิดเพลิงไหม้ และจมลงสุ่ก้นทะเลเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ เบิ้องต้น ค้นหาในจุดเรือจมก่อน หากไม่พบขยายรัศมีออกไปโดยรอบ
ความคืบหน้ากรณีเรือโดยสารประจำทางเส้นทางภูเก็ต-เกาะพีพี จ.กระบี่ ชื่อ อ่าวนางปริ๊นเซส 5 เกิดเพลิงไหม้ที่บริเวณกลางทะเล รอยต่อระหว่างหมู่ที่ 5 ต.อ่าวนาง กับหมู่ที่ 1 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ หรือที่เรียกว่า เกาะเสม็ด เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ผู้โดยสาร 116 ชีวิต ต้องหนีตายลงไปลอยคออยู่กลางทะเลก่อนที่จะมีเรือที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงและเรือของเจ้าหน้าที่ทางราชการมาให้การช่วยเหลือ และจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นเด็กผู้หญิง ชื่อ shani maril อายุ12 ปี ชาวอิสราเอล สูญหาย 1 คน ขณะที่เรือลำดังกล่าวถูกไฟไหม้จมลงสู่ก้นทะเลในเวลาหลังจากนั้นประมาณ 40 นาที
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (9 เม.ย.) นายณรงค์ วุ่นซิ้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย พ.ต.ต.อนุรักษ์ ปริญญาสถิรกุล สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 1 กองกำกับการ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำกระบี่ นำเรือ รน.65 ร่วมกับเรือ ต.218 เรือสำนักงานเจ้าท่ากระบี่ และฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่อุทยานหาดนพรัตน์ธารา นักประดาน้ำจากทัพเรือภาคที่ 3 และนักประดาน้ำจากภาคเอกชนในจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่จุดที่เรืออ่าวนางปริ้นเซสจม เพื่อวางแผนออกค้นหานักท่องเที่ยวที่ยังสูญหายอยู่ 1 ราย และเรือที่จมอยู่ใต้ท้องทะเล
ในเบื้องต้น จะให้นักประดาน้ำดำลงไปค้นหาผู้สูญหายที่บริเวณจุดเรือจมก่อน คือ บริเวณเกาะเสม็ด หากยังไม่พบจะมีการวางแผนออกค้นหาในบริเวณรอบๆ ที่เกิดเหตุต่อไป
