ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ว่าฯ สงขลา ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงท้องถิ่น เพื่อเตรียมการเฝ้าระวังเมืองสำคัญในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ด้าน ผบก.ภ.จว.สงขลา จัดทำโครงการ “หาดใหญ่มั่งคงโมเดล” ป้องกันการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่
วันนี้ (7 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายเอกรัฐ หลีเส็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ทหาร ตำรวจ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเตรียมการเฝ้าระวังเมืองสำคัญในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดสงขลา
นอกจากนี้ ยังมีข้อห่วงใยจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2558 ซึ่งเป็นวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประชาชนทั่วไปมีการสัญจรเดินทางกลับภูมิลำเนา ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าว หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนได้จัดกิจกรรมเนื่องในเทศกาลประเพณีสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ จากความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายที่ยังคงมีความพยายามก่อเหตุ ซึ่งได้วิเคราะห์สถานการณ์ดังกล่าวแล้วมีแนวโน้มของการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา รวมทั้งเมืองเศรษฐกิจหลักของสงขลา คือ อ.หาดใหญ่ อ.สะเดา และ อ.เมืองสงขลา กอ.รมน.ภาค 4 ส.น. ได้กำหนดแผนการ รปภ.(10 วันสันติ) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2558 ระหว่างวันที่ 10-19 เม.ย.58 โดยเพ่งเล็ง และเพิ่มความเข้มในพื้นที่ชุมชน ชุมชนไทยพุทธ และเป้าหมายอ่อนแอ ที่ตั้งหน่วย สถานที่ราชการ วัด และโรงเรียน
ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ออกแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ 19 มาตรการ ระหว่างวันที่ 1-16 เม.ย.58 เช่น การระดมกวาดล้างอาชญากรรม และปล่อยแถวกวาดล้างฯ ในเมืองเศรษฐกิจของจังหวัด ตำรวจภูธรสงขลา จัดทำโครงการหาดใหญ่มั่งคงโมเดล “เดินรณรงค์การป้องกันการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ อ.หาดใหญ่” ซึ่งจะจัดในวันที่ 9 เม.ย. นี้ จัดทำโครงการ “ฝากบ้านกับตำรวจ” ระหว่างวันที่ 10-16 เม.ย.58 มาตราซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ เพื่อป้องกันการก่อเหตุในพื้นที่ โดยขอความร่วมประชาชน ห้างร้าน ร้านสะดวกซื้อช่วยสอดส่องดูแลหน้าบ้าน หน้าพื้นที่ของตนเอง หากมีรถต้องสงสัย หรือบุคคลแปลกหน้าให้แจ้ง 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
