xs
xsm
sm
md
lg

แม่ทัพภาคที่ 4 พบผู้บริหารโรงเรียนปอเนาะ พร้อมทำความเข้าใจการตรวจค้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปัตตานี - แม่ทัพภาค 4 พบผู้บริหาร ร.ร.ปอเนาะ 5 จังหวัด สร้างความเข้าใจกรณีตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุรุนแรงในโรงเรียนปเนาะ เพื่อป้องกันไม่เห็นเป็นแหล่งซ่องสุมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง

วันนี้ (15 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมเซาท์เทรินวิวปัตตานี พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมพบปะกับผู้บริหารสถาบันการศึกษาปอเนาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในการพบปะครั้งนี้ ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องการให้สถาบันการศึกษาปอเนาะมีความเข้มแข็ง และเป็นการรวมพลังร่วมกันระหว่างภาครัฐ กับผู้บริหารที่เต็มไปด้วยพลังอันบริสุทธิ์ที่จะนำพาเยาวชนมีอนาคต และห่างไกลกับปัญหายาเสพติด และภัยคุกคามที่ทำลายความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามใช้สถาบันการศึกษาปอเนาะเป็นแหล่งบ่มเพาะ และหลบซ่อนตัววางแผนเพื่อหวังสร้างสถานการณ์ จนเป็นเหตุให้ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้มีการปิดล้อมตรวจค้นสถาบันการศึกษาปอเนาะจนก่อให้เกิดความรุนแรง และความสูญเสียขึ้นจนส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งในการพบปะครั้งนี้ก็เพื่อหารือวางแนวทางการป้องกันร่วมกัน เพื่อป้องกันไม่ให้สถาบันการศึกษาปอเนาะตกเป็นเครื่องมือของผู้ก่อเหตุรุนแรง และส่งเสริมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สมบูรณ์ตามแนวทางของหลักศาสนาอิสลาม โดยในวันนี้ มีผู้บริการสถาบันการศึกษาปอเนาะมาร่วมกว่า 1 พันคน

 
พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า วันนี้ถือว่าเป็นการร่วมมือกันที่จะเดินไปในแนวทางเดียวกัน เพราะที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้สถานที่ปอเนาะในการหลบซ่อนตัวเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นก็จะเกิดความไม่เข้าใจกัน ซึ่งวันนี้มาเพื่อสร้างความเข้าใจไม่ให้เกิดความหวาดระแวง ซึ่งโต๊ะครู ก็ต้องเข้าใจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องเข้าใจว่าปอเนาะเป็นสถานที่ที่ต้องให้ความเคารพนับถือในฐานะที่เป็นสถาบันให้ความรู้แก่เยาวชน ฉะนั้นวันนี้เราต้องมาทำความเข้าใจร่วมกัน หากเกิดเหตุขึ้นในครั้งหน้าเราจะได้มีช่องทางในการติดต่อเพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้น

ในส่วนของการสับเปลี่ยนกำลังครั้งใหญ่ที่ให้ทหารจากกองทัพภาคต่างๆ กลับที่ตั้งเดิม เพื่อให้กองทัพภาคที่ 4 ดูแลทั้งหมดนั้น เป็นนโยบาลขอรัฐบาล และ ผบ.ทบ.ที่ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลตนเอง ซึ่งเป็นแนวทางยุทธศาสตร์การปฏิบัติโดยวิธีการจากน้อยไปหามากในพื้นที่ที่ประชาชนมั่นใจว่าทหารควรถอนออก แล้วให้ตำรวจ อส. และทหารพรานซึ่งเป็นคนในพื้นที่เข้ามาดูแล ส่วนเรื่องความมั่นใจว่าจะทำได้หรือไม่นั้น อยู่ที่ประชาชน เพราะวันนี้ประชาชนปฏิเสธความรุนแรง และออกมาดูแลพื้นที่วันละกว่า 2 หมื่นคน ที่เป็นทั้งชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน จิตอาสาป้องกันตนเอง สิ่งเหล่านี้ชัดเจนว่า ประชาชนดูแลตนเองได้ถึงแม้ว่าจะยังคงมีเหตุความรุนแรงขึ้นในบางพื้นที่
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น