กระบี่ - สื่อโซเชียลแฉ อบจ.กระบี่ โค่นป่าโกงกาง สร้างสนามกีฬาโรงเรียน เนื้อที่กว่า 80,000 ตารางเมตร ด้านรอง นายก อบจ.แจงได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ตั้งแต่ปี 27
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดกระบี่ ว่า โลกโซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังตกตะลึงต่อภาพการทำลายป่าชายเลน เพื่อสร้างสนามกีฬาโรงเรียน อบจ.กระบี่ ถนนท่าเรือ ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ the dark knights II ได้โพสต์ภาพประมาณ 5 ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า “ก่อนหน้านี้ที่กระบี่มีนายกเล็กอำเภอเมืองกระบี่ สั่งตัดต้นไม้อายุร้อยกว่าปี ไปทำงานศิลปะอะไรก็ไม่รู้ คนก็แห่ไปด่ากันทั้งบ้านทั้งเมือง คนที่เกี่ยวข้องในการโค่นต้นไม้เพื่อเอามาทำงานศิลปะก็บอกว่า ทีไอ้พวกโค่นป่าโกงกาง โค่นเยอะกว่านี้อีกทำไมพวกมึงไม่ไปด่ามันมั่งวะ”
“เอาล่ะวันนี้เพื่อความเสมอภาค กูจะเอาพวกโค่นป่าโกงกางมาแฉมั่งจัดไป ขอเล่าเรื่องแบบคร่าวๆ มีพื้นที่ป่าโกงกางได้ถูกเอาไปใช้ทำสนามฟุตบอล เพราะพื้นที่ป่าโกงกางผืนนี้อยู่ในโครงการของสมเด็จพระราชินี ที่ปกป้องป่าโกงกางที่เหลือน้อยมากไม่ให้ถูกทำลาย แต่มีโครงการของ อบจ.กระบี่ ที่เอาพื้นที่ป่าของป่าโกงกาง 80,000 ตารางเมตร ไปทำสนามฟุตบอล ตอนนี้ถางจนโล่งหมดแล้ว และจากนั้น อบจ.กลุ่มนี้ก็จัดงานสัมมนาการดูแลป่า เป็นไงล่ะครับมึงคิดว่าไงกัน รอดู Part ต่อไปเลยว่าทำอะไรกันไว้ กูมีคลิปที่ถ่ายจากสถานที่จริง รูปอีกเพียบ” นนี่คือข้อความที่ระบุในเฟซบุ๊กชื่อ the dark knights II
สำหรับภาพที่มีการนำมาเผยแพร่ เป็นภาพพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ข้อความว่า อย่างที่กระบี่ ข้าพเจ้าก็ไปขอกับชาวกระบี่ว่าป่าไม้ชายเลนอันนี้อย่าทำลายเลย ขอให้ข้าพเจ้าเถอะ ขอให้เป็นป่าไม้ชายเลนอย่างเดิม เพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยเอง นอกจากนี้ ยังมีภาพถ่ายของโครงการ ภาพถ่ายทางอากาศซึ่งเป็นภาพป่าชายเลนก่อนถูกทำลาย และภาพสถานที่ของป่าชายเลนที่ถูกทำลาย และได้มีการถมดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากภาพ และข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก หลายคนรู้สึกประหลาดใจ และสะเทือนใจต่อการทำลายป่าชายเลนของ อบจ.กระบี่ และยังมีการระบุด้วยว่า พื้นที่นี้อยู่ในโครงการอนุรักษ์ป่าชายเลนของสมเด็จพระราชินี
แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า สำหรับพื้นที่ป่าชายเลนที่ทาง อบจ.กระบี่ นำมาสร้างเป็นสนามกีฬาของโรงเรียน อบจ.กระบี่ เป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจมาก และเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าการตัดต้นไม้มะหาด ของนายกเทศบาลเมืองกระบี่ ถึงแม้ว่าทาง อบจ.กระบี่ จะทำถูกต้องตามระเบียบทุกอย่างก็ตาม เพราะก่อนหน้านี้ได้มีพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงขอกับชาวกระบี่ว่า “ป่าไม้ชายเลนอันนี้อย่าทำลายเลย ขอให้ข้าพเจ้าเถอะ ขอให้เป็นป่าไม้ชายเลนอย่างเดิม เพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยเอง และทางสำนักงานป่าชายเลนก็ได้นำไปติดไว้ตามสถานที่ต่างๆ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจต่อพระราชดำรัสแม้แต่น้อย” ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงไม่มีหน่วยงานใดออกมาคัดค้านการทำลายป่าชายเลน หรือว่าพระราชดำรัสไม่แพร่หลาย จึงไม่มีใครออกมาเชิดชูกัน แม้แต่หน่วยงานของรัฐเอง ก็ได้แต่นำป้ายพระราชดำรัสไปติดไว้อย่างเดียวแต่ไม่ได้ทำให้แพร่หลาย
ด้าน นายอัครเดช ฉากจินดา ตัวแทนกลุ่ม SAVE KRABI 1 ในบุคคลที่ออกมาคัดค้านการสร้างประติมากรรมไม้ ของนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกระบี่ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยอยู่แล้วต่อการตัดป่าไม้โกงกางซึ่งมีพื้นที่หลายสิบไร่ เพื่อทำสนามกีฬาของโรงเรียน อบจ. หรือสนามกีฬา อบจ. ซึ่งผมไม่ทราบว่าเป็นโครงการของส่วนไหนอย่างไร เพราะเริ่มต้นป้ายประกาศเป็นโครงการปรับปรุงสถานีวิทยุกระจายเสียง และยังเว้นต้นโกงกางด้านนอกเอาไว้เหมือนการปิดบังไม่ให้ชาวบ้านรับรู้สภาพด้านในได้ชัด
แต่ก็เริ่มมีข้อสงสัยจากการมีรถบรรทุกถมดินเข้าออกตลอดเวลา ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติ ต่อมาเมื่อพื้นที่ด้านในถมเสร็จก็มีการเปิดด้านหน้าซึ่งทำให้เห็นว่ามีการตัดต้นไม้โกงกาง และถมดินโดยใช้พื้นที่จำนวนหลายสิบไร่ และมีป้ายประกาศว่า เป็นโครงการสนามกีฬา และที่สำคัญ อบจ.กระบี่ เองเป็นหน่วยงานที่มีโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ แต่กลับจัดทำโครงการนี้ซึ่งมีความขัดแย้งในตัวเอง เพราะถ้าดูจากแผนที่ตรงจุดนั้นเดิมมีป่าปกคลุมเกือบ 100% คำถามจากชาวบ้าน คือ พื้นที่ตรงนั้นอยู่ในเขตแรมซ่า หรือไม่ เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมหรือไม่
ขณะที่ นายกิตติชัย เอ่งฉ้วน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ดังกล่าวทาง อบจ.กระบี่ ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ให้ใช้พื้นที่ จำนวน 671 ไร่ และต่อมา เมื่อ พ.ศ.2527 ทางกรมป่าไม้ก็ได้อนุญาตให้กรมประชาสัมพันธ์เข้าไปใช้พื้นที่ จำนวน 50 ไร่เศษ เพื่อสร้างสถานีวิทยุ และเมื่อ 2534 ทาง ครม.ก็ได้มีมติให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์ราชการด้วย ซึ่งขณะนี้ก็ได้หน่วยงานของรัฐได้เข้ามาใช้พื้นที่แล้วจำนวนมาก
สำหรับพื้นที่ที่เป็นประเด็นปัญหา และมีการโพสต์กันตามโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก็คือ พื้นที่ที่ทาง อบจ.กระบี่ ใช้ทำเป็นสนามกีฬาของโรงเรียน อบจ.โดยมีการปรับถมพื้นที่จากป่าชายเลนให้เป็นสนามกีฬา โดยใช้งบประมาณ จำนวน 29 ล้านบาทเศษ ซึ่งป่าชายเลนดังกล่าวปัจจุบันมีสภาพเสื่อมโทรมไปแล้ว ทาง อบจ.กระบี่ จึงได้พัฒนาพื้นที่ให้เป็นสนามกีฬา เนื้อที่ประมาณ 80,000 ตารางเมตร ไม่ได้มีการทำลายป่าชายเลนที่สมบูรณ์เหมือนอย่างที่มีการโพสต์ในโลกโซเชียลแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดกระบี่ ว่า โลกโซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังตกตะลึงต่อภาพการทำลายป่าชายเลน เพื่อสร้างสนามกีฬาโรงเรียน อบจ.กระบี่ ถนนท่าเรือ ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ the dark knights II ได้โพสต์ภาพประมาณ 5 ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า “ก่อนหน้านี้ที่กระบี่มีนายกเล็กอำเภอเมืองกระบี่ สั่งตัดต้นไม้อายุร้อยกว่าปี ไปทำงานศิลปะอะไรก็ไม่รู้ คนก็แห่ไปด่ากันทั้งบ้านทั้งเมือง คนที่เกี่ยวข้องในการโค่นต้นไม้เพื่อเอามาทำงานศิลปะก็บอกว่า ทีไอ้พวกโค่นป่าโกงกาง โค่นเยอะกว่านี้อีกทำไมพวกมึงไม่ไปด่ามันมั่งวะ”
“เอาล่ะวันนี้เพื่อความเสมอภาค กูจะเอาพวกโค่นป่าโกงกางมาแฉมั่งจัดไป ขอเล่าเรื่องแบบคร่าวๆ มีพื้นที่ป่าโกงกางได้ถูกเอาไปใช้ทำสนามฟุตบอล เพราะพื้นที่ป่าโกงกางผืนนี้อยู่ในโครงการของสมเด็จพระราชินี ที่ปกป้องป่าโกงกางที่เหลือน้อยมากไม่ให้ถูกทำลาย แต่มีโครงการของ อบจ.กระบี่ ที่เอาพื้นที่ป่าของป่าโกงกาง 80,000 ตารางเมตร ไปทำสนามฟุตบอล ตอนนี้ถางจนโล่งหมดแล้ว และจากนั้น อบจ.กลุ่มนี้ก็จัดงานสัมมนาการดูแลป่า เป็นไงล่ะครับมึงคิดว่าไงกัน รอดู Part ต่อไปเลยว่าทำอะไรกันไว้ กูมีคลิปที่ถ่ายจากสถานที่จริง รูปอีกเพียบ” นนี่คือข้อความที่ระบุในเฟซบุ๊กชื่อ the dark knights II
สำหรับภาพที่มีการนำมาเผยแพร่ เป็นภาพพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ข้อความว่า อย่างที่กระบี่ ข้าพเจ้าก็ไปขอกับชาวกระบี่ว่าป่าไม้ชายเลนอันนี้อย่าทำลายเลย ขอให้ข้าพเจ้าเถอะ ขอให้เป็นป่าไม้ชายเลนอย่างเดิม เพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยเอง นอกจากนี้ ยังมีภาพถ่ายของโครงการ ภาพถ่ายทางอากาศซึ่งเป็นภาพป่าชายเลนก่อนถูกทำลาย และภาพสถานที่ของป่าชายเลนที่ถูกทำลาย และได้มีการถมดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากภาพ และข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก หลายคนรู้สึกประหลาดใจ และสะเทือนใจต่อการทำลายป่าชายเลนของ อบจ.กระบี่ และยังมีการระบุด้วยว่า พื้นที่นี้อยู่ในโครงการอนุรักษ์ป่าชายเลนของสมเด็จพระราชินี
แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า สำหรับพื้นที่ป่าชายเลนที่ทาง อบจ.กระบี่ นำมาสร้างเป็นสนามกีฬาของโรงเรียน อบจ.กระบี่ เป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจมาก และเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าการตัดต้นไม้มะหาด ของนายกเทศบาลเมืองกระบี่ ถึงแม้ว่าทาง อบจ.กระบี่ จะทำถูกต้องตามระเบียบทุกอย่างก็ตาม เพราะก่อนหน้านี้ได้มีพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงขอกับชาวกระบี่ว่า “ป่าไม้ชายเลนอันนี้อย่าทำลายเลย ขอให้ข้าพเจ้าเถอะ ขอให้เป็นป่าไม้ชายเลนอย่างเดิม เพื่อความยั่งยืนของประเทศไทยเอง และทางสำนักงานป่าชายเลนก็ได้นำไปติดไว้ตามสถานที่ต่างๆ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจต่อพระราชดำรัสแม้แต่น้อย” ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงไม่มีหน่วยงานใดออกมาคัดค้านการทำลายป่าชายเลน หรือว่าพระราชดำรัสไม่แพร่หลาย จึงไม่มีใครออกมาเชิดชูกัน แม้แต่หน่วยงานของรัฐเอง ก็ได้แต่นำป้ายพระราชดำรัสไปติดไว้อย่างเดียวแต่ไม่ได้ทำให้แพร่หลาย
ด้าน นายอัครเดช ฉากจินดา ตัวแทนกลุ่ม SAVE KRABI 1 ในบุคคลที่ออกมาคัดค้านการสร้างประติมากรรมไม้ ของนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกระบี่ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยอยู่แล้วต่อการตัดป่าไม้โกงกางซึ่งมีพื้นที่หลายสิบไร่ เพื่อทำสนามกีฬาของโรงเรียน อบจ. หรือสนามกีฬา อบจ. ซึ่งผมไม่ทราบว่าเป็นโครงการของส่วนไหนอย่างไร เพราะเริ่มต้นป้ายประกาศเป็นโครงการปรับปรุงสถานีวิทยุกระจายเสียง และยังเว้นต้นโกงกางด้านนอกเอาไว้เหมือนการปิดบังไม่ให้ชาวบ้านรับรู้สภาพด้านในได้ชัด
แต่ก็เริ่มมีข้อสงสัยจากการมีรถบรรทุกถมดินเข้าออกตลอดเวลา ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติ ต่อมาเมื่อพื้นที่ด้านในถมเสร็จก็มีการเปิดด้านหน้าซึ่งทำให้เห็นว่ามีการตัดต้นไม้โกงกาง และถมดินโดยใช้พื้นที่จำนวนหลายสิบไร่ และมีป้ายประกาศว่า เป็นโครงการสนามกีฬา และที่สำคัญ อบจ.กระบี่ เองเป็นหน่วยงานที่มีโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ แต่กลับจัดทำโครงการนี้ซึ่งมีความขัดแย้งในตัวเอง เพราะถ้าดูจากแผนที่ตรงจุดนั้นเดิมมีป่าปกคลุมเกือบ 100% คำถามจากชาวบ้าน คือ พื้นที่ตรงนั้นอยู่ในเขตแรมซ่า หรือไม่ เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมหรือไม่
ขณะที่ นายกิตติชัย เอ่งฉ้วน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ดังกล่าวทาง อบจ.กระบี่ ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ให้ใช้พื้นที่ จำนวน 671 ไร่ และต่อมา เมื่อ พ.ศ.2527 ทางกรมป่าไม้ก็ได้อนุญาตให้กรมประชาสัมพันธ์เข้าไปใช้พื้นที่ จำนวน 50 ไร่เศษ เพื่อสร้างสถานีวิทยุ และเมื่อ 2534 ทาง ครม.ก็ได้มีมติให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์ราชการด้วย ซึ่งขณะนี้ก็ได้หน่วยงานของรัฐได้เข้ามาใช้พื้นที่แล้วจำนวนมาก
สำหรับพื้นที่ที่เป็นประเด็นปัญหา และมีการโพสต์กันตามโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก็คือ พื้นที่ที่ทาง อบจ.กระบี่ ใช้ทำเป็นสนามกีฬาของโรงเรียน อบจ.โดยมีการปรับถมพื้นที่จากป่าชายเลนให้เป็นสนามกีฬา โดยใช้งบประมาณ จำนวน 29 ล้านบาทเศษ ซึ่งป่าชายเลนดังกล่าวปัจจุบันมีสภาพเสื่อมโทรมไปแล้ว ทาง อบจ.กระบี่ จึงได้พัฒนาพื้นที่ให้เป็นสนามกีฬา เนื้อที่ประมาณ 80,000 ตารางเมตร ไม่ได้มีการทำลายป่าชายเลนที่สมบูรณ์เหมือนอย่างที่มีการโพสต์ในโลกโซเชียลแต่อย่างใด
