ยะลา - เผยเรื่องราวชีวิต “นายอะหมัด รามันห์สิริวงศ์” ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดยะลา นักข่าวดีกรีรางวัล “มูลนิธิอิศรา อมันตกูล” เผยสุดภูมิใจในการเป็นนักข่าวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้ปัจจุบันต้องแลกด้วยการป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตก จากการทำข่าวในเหตุการณ์คนร้ายลอบยิง อส.
วันนี้ (6 มี.ค.) นายอะหมัด รามันห์สิริวงศ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดยะลา ที่คนทั่วไปในวงการสื่อสารมวลชน จะเรียก “สตริงเกอร์” นั่งดูถ้วยรางวัลเกียรติยศที่ตัวเองเคยได้รับมาเมื่อปี 2551 ด้วยความปลื้มในใจว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตการทำหน้าที่คนขายข่าวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยความเสี่ยง แลกด้วยชีวิต จนได้รับรางวัลเกียรติยศในชีวิต เป็นรางวัลจากมูลนิธิอิศรา อมันตกูล รางวัลภาพดีเด่น ถึงแม้ว่าวันนั้นตัวเองได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด จนต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา และโรงพยาบาลสิโรรส จ.ยะลา 1 เดือนเต็มก็ตาม
ปัจจุบัน นายอะหมัด ต้องนอนรักษาอาการป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก จากการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนในเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน เสียชีวิต 2 นาย ที่บ้านปาโล๊ะ ตำบลบาโงย อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 23 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา
นายอะหมัด เริ่มทำงานข่าวเพื่อสืบทอดอาชีพสื่อมาจากคุณพ่อ ตั้งแต่อายุ 20 ปี โดยได้เป็นผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ประจำจังหวัดยะลา จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเป็นผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์อีกหลายช่อง เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2548 เกิดเหตุระเบิดหน้าร้านบุญศรี ตรงกันข้ามสถานีรถไฟยะลา เป็นระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้ระเบิดเสียชีวิต
ส่วนนายอะหมัด ซึ่งเข้าไปทำหน้าสื่อมวลชนบันทึกเหตุการณ์ถูกสะเก็ดระเบิดจากลูกที่ 2 ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเขารักษาตัวที่ รพ.ศูนย์ยะลา รพ.สิโรรส กว่า 1 เดือน นอกจากนี้ นายอะหมัด ยังได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่อีก 2 ครั้ง ที่อำเภอรามัน และ อ.เมืองยะลา ในปีถัดมาตามลำดับแต่ นายอะหมัด ก็ไม่ย่อท้อในการทำหน้าที่คนขายข่าวแต่อย่างใด
ทุกปีในวันสื่อสารมวลชน นายอะหมัด จะไปร่วมงาน ซึ่งสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย จัดขึ้นที่ อ.หาดใหญ่ แต่ในปีนี้ได้แต่ฝากฝังความคิดถึงผ่านผู้เป็นพ่อ นายอับดุลการิม รามันห์สิริวงศ์ ในฐานะเลขาธิการสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทยไปยังเพื่อนๆ สมาชิกสมาคมฯ ที่ นายอะหมัด เป็นสมาชิกอยู่ด้วย เนื่องจากตัวเองล้มป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกจากการปฏิบัติหน้าที่ และยังได้จ้องมองระลึกถึงความหลัง ด้วยการนำโล่รางวัลเกียรติยศที่ตัวเองได้รับมาด้วยน้ำตาซึมคลอเบ้า
นายอับดุลการิม รามันห์สิริวงศ์ เลขาธิการสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ในฐานะผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า การทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกนาที ทุกเวลา อยู่บนความเสี่ยงต่อชีวิต ไม่รู้ว่าภัยจากสถานการณ์จะมาถึงตัวเองเมื่อไร แต่ทุกคนก็ต้องทำเพื่ออาชีพที่ตัวเองชอบ และรักมัน
นายอับดุลการิม ยังกล่าวอีกว่า หากเกิดเหตุร้ายต่อสื่อมวลชนในพื้นที่ตนเอง จะทำหน้าที่ในการประสานงานกับองค์กรสมาคมฯ สื่อในส่วนกลาง เพื่อหาเงินมาเยียวยาเป็นกำลังใจ อย่างกรณีเกิดขึ้นกับนักข่าวในจังหวัดนราธิวาส เป็นต้น
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา สื่อมวลชนไม่ได้เป็นเป้าหมายของการใช้ความรุนแรง แต่การเข้าไปทำงานในพื้นที่บางครั้งอาจได้รับบาดเจ็บไปบ้าง ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยเช่นกัน ทางแม่ทัพภาค 4 ได้ให้ ผบ.เหตุการณ์ได้มีการบริหารจัดการ โดยของการกำหนดพื้นที่ที่สื่อมวลชนสามารถที่จะเข้าไปได้ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของกลุ่มผู้ก่อความรุนแรง เช่น การวางระเบิด อาจจะระเบิดซ้ำ เป็นต้น
การทำงานของสื่อมวลชนประจำจังหวัด หรือที่เขามักระเรียกว่า “สตริงเกอร์” นั้น คือ สื่อมวลชนที่มีสังกัดชัดเจน จะกี่สังกัดก็ได้ เนื่องจากไม่ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนแต่จะมีรายได้จากการขายข่าว หากข่าวที่ผลิตออกไปไม่สามารถออกอากาศ หรือตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ได้เงินข่าวก็จะไม่ได้รับ ดังนั้น สื่อมวลชนในพื้นที่จึงแสวงหาข่าวที่สามารถนำเสนอออกอากาศได้เป็นหลัก โดยเฉพาะข่าวเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงแม้ว่าจะเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนก็จำเป็นต้องไปแสวงหามาให้ได้ เพื่อแลกกับค่าข่าวที่จะได้รับ จึงเปรียบเสมือนว่าเงินที่ได้จากการขายข่าวจะต้องแลกกับความเสี่ยงของชีวิตก็ต้องยอม