xs
xsm
sm
md
lg

รอง ผบ.ตร.ลงภูเก็ตตามความพร้อมเข้าสู่อาเซียน ย้ำดูแลความปลอดภัย ป้องกันอาชญากรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รอง ผบ.ตร ในฐานะ ผอ.ศูนย์อาเซียนตำรวจ และคณะตรวจติดตามความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มอบ 3 นโยบายหลัก การตรวจการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทางเรือบริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง การตรวจการเตรียมความพร้อมด้านอาชญากรรมข้ามชาติ และการตรวจการเตรียมความพร้อมด้านการจราจร

วันนี้ (3 มี.ค.) ที่ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง พล.ต.อ.ดร.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร.-ผอ.ศูนย์อาเซียนตำรวจ และคณะได้มาตรวจเยี่ยมเพื่อขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี 2558 ของตำรวจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และบริเวณท่าเรืออ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต โดยมี พ.ต.อ.ณพัฒน์ศักย์ ธรรมรักษ์ ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.สัญชัย โชคขยายกิจ ผกก.ตม.จังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายด่านศุลกากรภูเก็ต เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต เจ้าหน้าที่สถานทูตในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รวมต้อนรับและชี้แจงข้อมูลการตรวจสอบเรือที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ดร.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร ในฐานะผอ.ศูนย์อาเซียนตำรวจ ได้มอบนโยบาย และแนวทางในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของตำรวจจังหวัดภูเก็ต ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 เรื่อง คือการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว โดยให้ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และตำรวจท่องเที่ยว ให้เพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวให้มากขึ้น เช่น การติดตั้งกล้อง CCTV ให้ครบทุกพื้นที่ และเพิ่มการติดตั้งแสงส่องสว่างในจุดพื้นที่เป็นพื้นที่เสี่ยงอาชญากรรมทั้งหมดเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังอาชญากรรม ยาเสพติด และการก่อการร้าย เพื่อจะลดความสูญเสียในชีวิต และทรัพย์สินในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงอันตราย

รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวก และช่วยเหลือนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะเกาะต่างๆ และให้ ตม.จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นประตูเข้าสู่ประเทศ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการควบคุม และการปฏิบัติต่อผู้ควบคุมพาหนะและคนประจำพาหนะให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง รวมถึงการขอความร่วมมือเจ้าบ้าน เจ้าของ หรือผู้ครอบครองเคหสถาน หรือผู้จัดการโรงแรมซึ่งรับคนต่างด้าวให้แจ้งที่พักต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และปัญหาด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ต 10 อันดับแรกได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลี สหราชอาณาจักร เวียดนาม และออสเตรเลีย โดยการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ให้เฝ้าระวัง และป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติที่แฝงเข้ามาในรูปของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะแก๊งลักทรัพย์ แก๊งปลอมหนังสือเดินทาง ปลอมบัตรเครดิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมที่ต้องมีการจัดการอย่างเร่งด่วนในภูมิภาคอาเซียนตามข้อตกลงระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ASEANAPOL ได้แก่ การค้ามนุษย์ การค้ายาเสพติด และการฟอกเงิน

ทั้งนี้ รวมถึงปัญหาด้านการจราจรซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก โดยมีการปรับโครงสร้างพื้นฐาน และยกระดับมาตรฐานด้านบริหาร และธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อการท่องเที่ยวสู่มาตรฐานสากล จึงทำให้มีปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จึงได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต วางแผนจัดระบบการจราจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะในย่านธุรกิจ และแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทในการจัดการจราจรให้มากขึ้น ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และให้ร่วมมือกันระหว่างรัฐกับประชาชน องค์กรพัฒนาเอกชน ในการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ผู้ขับรถมีวินัยการจราจร และรักษามาตรฐานความปลดภัยอย่างเคร่งครัด

หลังจากนั้น พล.ต.อ.ดร.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร.-ผอ.ศูนย์อาเซียนตำรวจ และคณะ ได้ตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการดูแลศูนย์ควบคุมเรือยอชต์จังหวัดภูเก็ต (Phuket Yacht Control : PYCC) ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สาธิตขั้นตอนการปฏิบัติการทำงานของศูนย์ควบคุมเรือยอชต์จังหวัดภูเก็ต (Phuket Yacht Control : PYCC) เป็นการให้บริการศูนย์ควบคุมเรือยอชต์ (Phuket Yacht Control : PYCC) และพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อบริการแบบ One Stop Service จากระบบเอกสาร (Manual) เป็นการแจ้งเข้า-ออกผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ท และบันทึกข้อผ่านระบบ PRCCS (Phuket Yacht Control Center Sytem) ซึ่งถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมการปฏิบัติเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยอำนวยความสะดวก และให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการจากประเทศภาคีสมาชิกให้มีความสะดวกรวดเร็วได้เป็นอย่างดี และไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยื่นเอกสารหลายๆ หน่วยงาน โดยเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาให้บริการแล้วเสร็จภายใน 15 นาทีต่อหนึ่งรายเท่านั้น ทำให้สามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น และยังมีมาตรฐานในการป้องกันรักษาความปลอดภัย และความมั่นคง ซึ่งที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 25 ก.ค.2557-28 ก.พ.2558) ได้ให้บริการรับแจ้งไปแล้วรวมเรือยอชต์เข้า จำนวน 1,029 ลำ ออก 896 ลำ คนประจำพาหนะ เข้า 1,861 ออก 1,968 และผู้โดยสาร เข้า 2,146 ออก 766 ราย

ต่อจากนั้น พล.ต.อ.ดร.วุฒิ ลิปตพัลลภ เดินทางเข้าประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.วิษณุ ม่วงแพร่ศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และตำรวจในจังหวัดภูเก็ตที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือในเรื่องของการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและการจัดการจราจร ในจังหวัดภูเก็ต ที่ห้องประชุม 3 สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.ดร.วุฒิ กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในครั้งนี้ว่า เน้นการเตรียมความพร้อมที่สำคัญใน 3 เรื่อง คือ การตรวจการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทางเรือบริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง การตรวจการเตรียมความพร้อมด้านอาชญากรรมข้ามชาติ และการตรวจการเตรียมความพร้อมด้านการจราจร

พร้อมทั้งมอบนโยบายในการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี 2558 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แก่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ใน 4 เรื่องหลัก ซึ่งประกอบด้วย 1.จัดตั้งศูนย์การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประอาเซียนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โดยนำรูปแบบมาจากส่วนกลาง 2.การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ให้จัดเก็บข้อมูลของนักท่องเที่ยวที่มีคดีติดตัว พร้อมทั้งจัดทำแผนที่และที่อยู่ในขณะที่พักอาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตด้วย 3.การแก้ปัญหาด้านการจราจร ให้เปิดปฏิบัติการทวงคืนพื้นผิวจราจรคืนสู่ประชาชน รวมทั้งเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดใน เรื่องของ 5 จอม 5 จริง และ 4.สั่งการให้ผู้กำกับการทุกสถานี โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว เมืองชายแดน และเมืองเศรษฐกิจ จะต้องสื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาสากลของอาเซียนให้ได้ นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในทุกด้าน รวมถึงการป้องกันปัญหาขอทาน คนเร่ร่อน และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่ด้วย
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น