นครศรีธรรมราช - กองทัพภาคที่ 4 เรียกประชุมส่วนราชการ เตรียมระดมรถบรรทุกกองทัพบก 150 คัน เข้าขนย้ายยางพารากว่า 2 หมื่นตัน จากภาคใต้ตอนกลาง ไปยังจังหวัดระยอง
วันนี้ (2 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณนาคะ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เรียกประชุมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่อการแก้ไขปัญหายางพาราเพื่อเร่งรัด และหาช่องทางในการแก้ไขปัญหาการขนย้ายยางพาราในนครศรีธรรมราช สงขลา และสุราษฎร์ธานี ที่อยู่ในโครงการนำตลาดตามโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชน โดยองค์การสวนยางพารา ซึ่งเป็นผู้ประมูลรายใหญ่จากตลาดกลางยางพาราในภาคใต้ โดยองค์การสวนยางได้ขอให้กองทัพเข้าชวยเหลือในการขนย้ายยางพาราแผ่นรมควันอัดก้อน จำนวน 21,479 ตัน จากโรงรมที่กระจายอยู่ในภาคใต้ ไปเก็บไว้ยังโกดังทีเอ็นทีมูนูล่า ในจังหวัดระยอง ให้แล้วเสร็จภายใน 14 วัน
ขณะที่ นายอรุณ เลิศวิไลย์ กรรมการองค์การสวนยาง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การสวนยาง ระบุว่า ขอสนับสนุนรถยนต์บรรทุก จำนวน 150 คัน จากกองทัพภาคที่ 4 เพื่อที่จะขนย้ายยางจำนวนนี้ โดยโครงการมูลภัณฑ์กันชนจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการขนส่ง สำหรับต่อคันต่อเที่ยวจะอยู่ที่ 30 ตัน มีเที่ยวขนส่งรวมประมาณ 350-400 เที่ยว
พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณนาคะ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า รถบรรทุกของกองทัพภาคที่ 4 มีไม่เพียงพอ แต่จะต้องระดมรถบรรทุกจากทั้งกองทัพบกเข้าช่วยในการขนย้าย ซึ่งจะต้องเร่งเพื่อให้การดำเนินการของตลาดกลางยาง และโครงการแก้ไขปัญหายางพาราของรัฐบาลเป็นไปได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นตามนโยบาย
สำหรับความล่าช้าที่เกิดขึ้นของโครงการนั้น สืบเนื่องจากองค์การสวนยางที่เป็นผู้ประมูลยางรายใหญ่ที่สุดจากตลาดกลางยางพารา ได้ซื้อในราคานำตลาด ทำให้ปริมาณยางที่ไหลเข้าสู่ตลาดกลางที่เป็นตลาดของรัฐมีส่วนแบ่งทางตลาดอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ มียางที่ไหลเข้ามามากกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ยางที่รอเข้าตลาดมีเป็นจำนวนมาก ขณะที่ตลาดในแต่ละจุดสามารถบริหารจัดการได้เพียง 400-700 ตันต่อวันเท่านั้น และมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ในความล่าช้ากระบวนการขนส่ง และกระบวนการผลิตยางอัดก้อน หรือยางแท่ง และภาคขนส่งมีการต่อรองสูงจึงต้องใช้รถบรรทุกทางทหารเข้าสนับสนุนในการขนส่ง