xs
xsm
sm
md
lg

คสช.สั่ง ทภ.4 ช่วยระบายยางพารา ขีดเส้นสิ้น มี.ค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
คสช.สั่งเร่งระบายยางพาราออกจากตลาดกลางรับซื้อ ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ให้เสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคม ตามนโยบาย คสช. ให้ ทภ.4 ส่งยานพาหนะขนส่งยางพาราไปโกดัง จ.ระยอง พร้อมสั่งเดินหน้าจัดระเบียบสังคมเดือนเดียวกัน เน้นจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่แผงลอย สิ่งก่อสร้างที่รุกล้ำลำน้ำสาธารณะ

วันนี้ (2 มี.ค.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงการทำงานของ คสช.ในการสนับสนุนรัฐบาลต่อโครงการมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพยางพารา โดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช.มอบหมายให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพบก เข้าสนับสนุนในโครงการฯ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติงบประมาณเข้ารับซื้อยางพารา โดยมอบให้องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดยเมื่อ 27 ก.พ.ที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมระหว่างคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช. กับคณะทำงานแก้ไขปัญหายางพารา และกระทรวงเกษตรฯ โดยที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันที่จะใช้ศักยภาพของกองทัพบกในการสนับสนุนโครงการนี้ ใน 2 เรื่องเร่งด่วน คือ 1. การบริหารจัดการจ่ายเงินรับซื้อยางพาราให้แก่เกษตรกรด้วยวิธีการที่โปร่งใส เม็ดเงินถึงมือเกษตรกรโดยตรง 2. การแก้ปัญหาการระบายยางพาราออกจากตลาดกลางรับซื้อ และปัญหาการขาดแคลนยานพาหนะในการขนส่งยางพาราไปยังโกดัง จ.ระยอง โดยทางกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 4 จะได้ประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการในพื้นที่ และเริ่มดำเนินการในสัปดาห์นี้ และจะเร่งแก้ปัญหาใน 2 เรื่องภายในสิ้นเดือนมีนาคม เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ขอหัวหน้า คสช.ที่ต้องการให้มีการรับซื้อยางจากเกษตรกร หรือองค์กรเกษตรกรโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง และให้เงินถึงมือเกษตรกรอย่างแท้จริง

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ คสช. โดยเฉพาะเรื่องการจัดระเบียบสังคมนั้น คสช.โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยยังคงใช้มาตรการที่เหมาะสม และการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรม จัดระเบียบในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมีนาคมนี้จะมีการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในกรุงเทพฯ เช่น ที่ตลาดนัดคลองถม เป็นการทำงานร่วมกันกับหลายส่วนทั้งกรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งต้องใช้การสร้างความเข้าใจถึงผลกระทบในทุกด้าน

นอกจากนี้ยังจะเดินหน้าเรื่องการจัดระเบียบสิ่งก่อสร้างที่รุกล้ำลำน้ำสาธารณะ และทางระบายน้ำ โดยขณะนี้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ คสช. ได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ปัญหาผู้บุกรุกและเปิดทางระบายน้ำในพื้นที่สำคัญของกรุงเทพฯ โดยจะมีโครงการนำร่องที่คลองลาดพร้าว และจะเป็นการแก้ปัญหาแบบบูรณาการ สามารถเปิดทางระบายน้ำได้ รื้อถอนสิ่งก่อสร้าง ปรับปรุงภูมิทัศน์ และการดูแลผู้ที่จะต้องได้รับผลกระทบ ตามหลักกฎหมายและมนุษยธรรม ซึ่งการจัดระเบียบลำน้ำดังกล่าว นอกจากจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในชุมชนเมือง และการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ถูกสุขลักษณะแล้วยังจะมีประโยชน์ในเรื่องของการท่องเที่ยว ความปลอดภัยของการใช้การคมนาคมทางน้ำด้วย

มีรายงานว่า กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 โดย พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณนาคะ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เรียกประชุมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหายางพารา เพื่อเร่งรัดและหาช่องทางในการแก้ไขปัญหาการขนย้ายยางพาราในนครศรีธรรมราช สงขลา และสุราษฎร์ธานี ที่อยู่ในโครงการนำตลาดตามโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนโดยองค์การสวนยางพาราซึ่งเป็นผู้ประมูลรายใหญ่จากตลาดกลางยางพาราในภาคใต้

โดยองค์การสวนยางได้ขอให้กองทัพเข้าช่วยเหลือในการขนย้ายยางพาราแผ่นรมควันอัดก้อนจำนวน 21,479 ตัน จากโรงรมที่กระจายอยู่ในภาคใต้ไปเก็บไว้ยังโกดังทีเอ็นทีมูนูล่า ในจังหวัดระยอง ให้แล้วเสร็จภายใน 14 วัน

ขณะที่นายอรุณ เลิศวิไลย์ กรรมการองค์การสวนยาง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การสวนยาง ระบุว่า ขอสนับสนุนรถยนต์บรรทุกจำนวน 150 คัน จากกองทัพภาคที่ 4 เพื่อที่จะขนย้ายยางจำนวนนี้ สำหรับต่อคันต่อเที่ยวจะอยู่ที่ 30 ตัน มีเที่ยวขนส่งรวมประมาณ 350-400 เที่ยว


กำลังโหลดความคิดเห็น