กระบี่ - กลุ่ม SAVE KRABI นำสื่อตรวจสอบสถานที่ตั้งประติมากรรม ต้นไม้ (ตายเพื่อเกิด) ระบุไม่เห็นด้วยต่อการโค่นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปี เพียงเพื่อมาสร้างประติมากรรม ได้ไม่คุ้มเสีย
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (20 ก.พ.) นายอัครเดช ฉากจินดา ตัวแทนกลุ่มเซฟกระบี่ ได้นำสื่อมวลชนไปตรวจสอบบริเวณริมเขื่อนเจ้าเจ้าฟ้า หน้าเมืองกระบี่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะมีการนำประติมากรรม “ตายเพื่อเกิด” ที่สร้างด้วยต้นไม้มะหาด อายุ 143 ปี ซึ่งเป็นความคิดของนายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกระบี่ ที่จะทำให้จังหวัดกระบี่กลายเป็นเมืองศิลปะ ซึ่งทำให้หลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
นายอัครเดช กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นอีกวันหนึ่งของคนรักกระบี่ ที่ต้องออกมาแสดงความเสียใจต่อการจากไปก่อนการสิ้นอายุขัยตามธรรมชาติของต้นมะหาด ไม้ประจำถิ่น อายุ 143 ปี ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของแผ่นดิน ซึ่งมีความสำคัญต่อบรรยากาศโลก การตัดต้นไม้ใหญ่ก็เท่ากับว่าเราได้ทำลายโรงงาน เครื่องผลิตออกซิเจน และกำจัดคาร์บอนขนาดใหญ่ออกไปจากพื้นที่ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญต้นๆ คือ เรื่องของการลดคาร์บอนในชั้นบรรยากาศของโลก
“ทุกวันนี้เรายังไม่สามารถที่จะทำอะไรได้นอกจากการคงไว้ซึ่งธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ควบคู่กับการจรรโลงโลกด้วยงานศิลปะที่จังหวัดกระบี่ก็พยายามจะสร้างสรรค์ขึ้นมา “ศิลปะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดความงาม และความพึงพอใจ” แต่ทว่าเป็นที่น่าเสียใจและขัดแย้งในใจเป็นอย่างยิ่งที่กระบี่สร้างสิ่งที่เรียกว่าศิลปะประติมากรรม ด้วยการทำลายธรรมชาติซึ่งมีความขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง เพราะศิลปะที่แท้ย่อมก่อให้เกิดสุนทรียะ เกิดความสะเทือนอารมณ์ แสดงออกซึ่งสติปัญญา ความคิดทัศนคติ”
ทางกลุ่ม SAVE KRABI จึงไม่เห็นด้วยต่อการโค่นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปี เพียงเพื่อมาสร้างประติมากรรมดังกล่าวที่ถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย พวกเราซึ่งเป็นตัวแทนของคนทั่วประเทศที่ไม่เห็นด้วย จึงขอออกมาเพื่อแสดงความไว้อาลัย และแสดงเจตนารมณ์ว่าพวกเราจะยังคงต่อสู้เพื่อปกป้องธรรมชาติของกระบี่เพื่อลูกหลาน และประเทศชาติต่อไป
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (20 ก.พ.) นายอัครเดช ฉากจินดา ตัวแทนกลุ่มเซฟกระบี่ ได้นำสื่อมวลชนไปตรวจสอบบริเวณริมเขื่อนเจ้าเจ้าฟ้า หน้าเมืองกระบี่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะมีการนำประติมากรรม “ตายเพื่อเกิด” ที่สร้างด้วยต้นไม้มะหาด อายุ 143 ปี ซึ่งเป็นความคิดของนายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกระบี่ ที่จะทำให้จังหวัดกระบี่กลายเป็นเมืองศิลปะ ซึ่งทำให้หลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
นายอัครเดช กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นอีกวันหนึ่งของคนรักกระบี่ ที่ต้องออกมาแสดงความเสียใจต่อการจากไปก่อนการสิ้นอายุขัยตามธรรมชาติของต้นมะหาด ไม้ประจำถิ่น อายุ 143 ปี ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของแผ่นดิน ซึ่งมีความสำคัญต่อบรรยากาศโลก การตัดต้นไม้ใหญ่ก็เท่ากับว่าเราได้ทำลายโรงงาน เครื่องผลิตออกซิเจน และกำจัดคาร์บอนขนาดใหญ่ออกไปจากพื้นที่ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญต้นๆ คือ เรื่องของการลดคาร์บอนในชั้นบรรยากาศของโลก
“ทุกวันนี้เรายังไม่สามารถที่จะทำอะไรได้นอกจากการคงไว้ซึ่งธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ควบคู่กับการจรรโลงโลกด้วยงานศิลปะที่จังหวัดกระบี่ก็พยายามจะสร้างสรรค์ขึ้นมา “ศิลปะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดความงาม และความพึงพอใจ” แต่ทว่าเป็นที่น่าเสียใจและขัดแย้งในใจเป็นอย่างยิ่งที่กระบี่สร้างสิ่งที่เรียกว่าศิลปะประติมากรรม ด้วยการทำลายธรรมชาติซึ่งมีความขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง เพราะศิลปะที่แท้ย่อมก่อให้เกิดสุนทรียะ เกิดความสะเทือนอารมณ์ แสดงออกซึ่งสติปัญญา ความคิดทัศนคติ”
ทางกลุ่ม SAVE KRABI จึงไม่เห็นด้วยต่อการโค่นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปี เพียงเพื่อมาสร้างประติมากรรมดังกล่าวที่ถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย พวกเราซึ่งเป็นตัวแทนของคนทั่วประเทศที่ไม่เห็นด้วย จึงขอออกมาเพื่อแสดงความไว้อาลัย และแสดงเจตนารมณ์ว่าพวกเราจะยังคงต่อสู้เพื่อปกป้องธรรมชาติของกระบี่เพื่อลูกหลาน และประเทศชาติต่อไป