กระบี่ - "กีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน" นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ แจงเรื่องการตัดต้นไม้ เพื่อให้ศิลปินใช้ทำงานศิลปะ
นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ กล่าวชี้แจงถึงกรณีเอาต้นไม้ มาสร้างประติมากรรม ว่า ทางเทศบาลเมืองตั้งปณิธานว่าจะทำเมืองกระบี่ให้เป็นเมืองแห่งศิลปะให้ได้ และเมื่อปีที่ผ่านมาก็มีการทำงานศิลปะในหอศิลป์กัน ตอนนั้นก็คุยกับศิลปินหลายๆ คน เอาไว้ว่าปีนี้ ( 2558) จะสร้างประติมากรรมกลางแจ้ง และได้พูดคุยกับทาง “นายมูไก” ศิลปินญี่ปุ่น ซึ่งทางศิลปินก็สนใจที่จะทำ แต่ทางศิลปินแจ้งว่าจะต้องใช้ไม้ใหญ่ๆ ก็เลยจัดให้จำนวน 5 ท่อน โดยศิลปินชาวญี่ปุ่นร่วมทำงาน อาจารย์กมล
สำหรับงานประติมากรรมที่ที่จะทำนั้นเป็นงานสแตนเลสทรงกลม เล่าเรื่องวัฒนธรรมอันดามันว่า อันดามันมีเกลียวคลื่น สายลม แสงแดด มีฉลุลายดนตรีร็องแง็ง จับมาคู่กับไม้แกะสลัก ก็เลยต้องหาไม้มาไว้ให้ได้ และได้ไปต่อกับนายสุวรรณ มุคุระ ที่มีต้นมะหาดอยู่ในที่ดินไนโฉนดของก็เลยขอร้อง ขอต้นไม้มาทำประติมากรรม ซึ่งเดิมทางเจ้าของจะตัดต้นไม้ดังกล่าวไปสร้างบ้านหลังใหม่ โดยต้นไม้ดังกล่าวสามารถสร้างบ้านหลังใหญ่ได้ทั้งหลังพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ แต่สุดท้ายเขายอมเสียสละต้นไม้ดังกล่าวให้กับทางเทศบาล
“ไม้มะหาด” เป็นไม้นอกบัญชีของกรมป่าไม้ ดังนั้น ไม่ต้องไปขออนุญาตก่อนจะตัด แต่ก็มีระเบียบปฏิบัติ เมื่อเจ้าของยินยอม เจ้าหน้าที่ประจำท้องที่เซ็นรับรอง และระบุปลายทางชัดเจนแล้วก็สามารถขนไม้ออกไปได้ เจตนาของตนคือการพัฒนาเมือง เราเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะยังไงไม้ต้นนี้มันกลวงแล้ว มันพร้อมจะตายอยู่แล้วเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ที่คนออกมาวิจารณ์กันว่าตนทำลายต้นไม้ เสียดาย มันเป็นสิ่งที่ดีที่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณพูดแบบนี้เมื่อไหร่ คุณต้องกลับไปดูด้วยว่า สิ่งที่อยู่รอบตัวคุณทั้งหมดที่เป็นป่าธรรมชาติ แม้กระทั่งต้นไม้ที่ปลูกไว้บนทางเท้าหน้าบ้าน ถามว่าทำไมต้องไปตัดมันเพื่อไม่ให้มันบังหน้าบ้านคุณ นั่นก็ไม่เป็นการอนุรักษ์แล้วครับ”
วันนี้ ในเขตป่าสงวน คนไปบุกรุกตัดต้นไม้กันเยอะแยะ และในป่าก็มีต้นไม้ที่ใหญ่ๆ กว่านี้อีก ยังไปตัดต้นไม้และไปเผาทิ้งกันอยู่เลย ศิลปินเขามีจิตสำนึกแน่นอนครับ อย่าไปโทษถึงศิลปินเลยว่าเขาต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะว่าตนนี่แหละเป็นคนหามาให้และให้ศิลปินเป็นคนจัดการ
นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ กล่าวชี้แจงถึงกรณีเอาต้นไม้ มาสร้างประติมากรรม ว่า ทางเทศบาลเมืองตั้งปณิธานว่าจะทำเมืองกระบี่ให้เป็นเมืองแห่งศิลปะให้ได้ และเมื่อปีที่ผ่านมาก็มีการทำงานศิลปะในหอศิลป์กัน ตอนนั้นก็คุยกับศิลปินหลายๆ คน เอาไว้ว่าปีนี้ ( 2558) จะสร้างประติมากรรมกลางแจ้ง และได้พูดคุยกับทาง “นายมูไก” ศิลปินญี่ปุ่น ซึ่งทางศิลปินก็สนใจที่จะทำ แต่ทางศิลปินแจ้งว่าจะต้องใช้ไม้ใหญ่ๆ ก็เลยจัดให้จำนวน 5 ท่อน โดยศิลปินชาวญี่ปุ่นร่วมทำงาน อาจารย์กมล
สำหรับงานประติมากรรมที่ที่จะทำนั้นเป็นงานสแตนเลสทรงกลม เล่าเรื่องวัฒนธรรมอันดามันว่า อันดามันมีเกลียวคลื่น สายลม แสงแดด มีฉลุลายดนตรีร็องแง็ง จับมาคู่กับไม้แกะสลัก ก็เลยต้องหาไม้มาไว้ให้ได้ และได้ไปต่อกับนายสุวรรณ มุคุระ ที่มีต้นมะหาดอยู่ในที่ดินไนโฉนดของก็เลยขอร้อง ขอต้นไม้มาทำประติมากรรม ซึ่งเดิมทางเจ้าของจะตัดต้นไม้ดังกล่าวไปสร้างบ้านหลังใหม่ โดยต้นไม้ดังกล่าวสามารถสร้างบ้านหลังใหญ่ได้ทั้งหลังพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ แต่สุดท้ายเขายอมเสียสละต้นไม้ดังกล่าวให้กับทางเทศบาล
“ไม้มะหาด” เป็นไม้นอกบัญชีของกรมป่าไม้ ดังนั้น ไม่ต้องไปขออนุญาตก่อนจะตัด แต่ก็มีระเบียบปฏิบัติ เมื่อเจ้าของยินยอม เจ้าหน้าที่ประจำท้องที่เซ็นรับรอง และระบุปลายทางชัดเจนแล้วก็สามารถขนไม้ออกไปได้ เจตนาของตนคือการพัฒนาเมือง เราเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะยังไงไม้ต้นนี้มันกลวงแล้ว มันพร้อมจะตายอยู่แล้วเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ที่คนออกมาวิจารณ์กันว่าตนทำลายต้นไม้ เสียดาย มันเป็นสิ่งที่ดีที่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณพูดแบบนี้เมื่อไหร่ คุณต้องกลับไปดูด้วยว่า สิ่งที่อยู่รอบตัวคุณทั้งหมดที่เป็นป่าธรรมชาติ แม้กระทั่งต้นไม้ที่ปลูกไว้บนทางเท้าหน้าบ้าน ถามว่าทำไมต้องไปตัดมันเพื่อไม่ให้มันบังหน้าบ้านคุณ นั่นก็ไม่เป็นการอนุรักษ์แล้วครับ”
วันนี้ ในเขตป่าสงวน คนไปบุกรุกตัดต้นไม้กันเยอะแยะ และในป่าก็มีต้นไม้ที่ใหญ่ๆ กว่านี้อีก ยังไปตัดต้นไม้และไปเผาทิ้งกันอยู่เลย ศิลปินเขามีจิตสำนึกแน่นอนครับ อย่าไปโทษถึงศิลปินเลยว่าเขาต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะว่าตนนี่แหละเป็นคนหามาให้และให้ศิลปินเป็นคนจัดการ