ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ไทเกอร์มวยไทย ส่ง “จอมโหด เกียรติอดิศักดิ์” สู้ในเวที MMA ที่จตุจักร 21 ก.พ.นี้ ชกในรุ่นน้ำหนัก 77 กก. มั่นใจสู้ได้แน่นอน รอบแรกเจอนักชกกัมพูชา เผยคนต่างชาติสนใจเรียนศิลปะป้องกันตัวมวยไทยเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ทำให้ค่ายมวยในภูเก็ตคึกคักมาก แค่ซอยตาเอียด มีถึง 7 ค่าย
นายวิล แอลลิออท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทเกอร์ มวยไทย จำกัด และนายจำลอง ทอดทิ้ง หรือ “จอมโหด เกียรติอดิศักดิ์” และเจสัน บุชานัน ผู้จัดการส่วนตัวของจอมโหด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณซอยตาเอียด ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการส่งนักมวยร่วมการแข่งขันชกมวยในรายการ MMA ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสมหลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน เช่น มวยไทย มวยสากล ยูโด มวยปล้ำ คาราเต้ แชมโบ บราซิลเลียน ยูยิสสู มีทั้งการเตะต่อย และการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ โดยจะมีการแข่งขันในวันที่ 21 ก.พ.นี้ ที่เวทีจตุจักร กรุงเทพฯ
นายวิล แอลลิออท เปิดเผยว่า ทางค่ายมวยไทเกอร์ได้ให้การสนับสนุนส่งนักมวยไทยที่ชื่อ “จอมโหด เกียรติอดิศักดิ์” หรือนายจำลอง ทอดทิ้ง อายุ 44 ปี เข้าร่วมการชกในรายการ MMA ซึ่งจะชกรอบแรกในวันที่ 21 ก.พ.2558 นี้ ที่เวทีจตุจักร กรุงเทพฯ ทั้งนี้ เพราะทางไทเกอร์มวยไทยเห็นว่า จอมโหด เกียรติอดิศักดิ์ มีคุณสมบัติครบถ้วนในการที่จะชก MMA และทางไทเกอร์เองก็ต้องการสนับสนุนให้คนไทยไปชกในเวทีดังกล่าวด้วย
นายวิล แอลลิออท กล่าวเพิ่มว่า ปัจจุบันนี้ชาวต่างชาติสนใจมาเรียนศิปละการต่อสู้แบบมวยไทยเป็นจำนวนมาก ทำให้ค่ายมวยไทยในภูเก็ตเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น ที่ซอยตาเอียด ขณะนี้มีเวทีมวยถึง 7 แห่ง เฉพาะที่ไทเกอร์แต่ละปีมีคนต่างชาติมาเรียนมวยไทยจำนวนมาก ทั้งนี้ เพราะมวยไทยถือเป็นเทคนิคการต่อสู้ที่จะไปสู่เวที MMA ได้เป็นอย่างดี
ด้าน “จอมโหด เกียรติอดิศักดิ์” หรือนายจำลอง ทอดทิ้ง กล่าวว่า ตนถือเป็นคนไทยคนแรกที่จะไปชก MMA ซึ่งการชก MMA นั้นแตกต่างจากมวยไทย ที่สามารถล็อกคอ ล็อกแขน และต่อยที่พื้นได้ โดยจะชกกันทั้งหมด 3 ยก ยกละ 5 นาที และจะต่อยจนกว่าอีกฝ่ายจะยอมแพ้ ซึ่งในการซก MMA นั้นสามารถนำเทคนิคของมวยไทยไปใช้ได้เป็นอย่างดี และในการชกครั้งนี้ตนก็มั่นใจเกินร้อยว่าสู้ได้แน่นอนในรุ่น 77 กิโลกรัมอย่างแน่นอน โดยรอบแรกจะพบกับนักมวยของกัมพูชา
สำหรับ จอมโหด “ราชาแห่งสังเวียนมวย” เกียรติอดิศักดิ์ คือ ตำนานนักมวยไทย เกิด : 5 กรกฎาคม 2513 ฉายา : ราชาแห่งสังเวียนมวย ส่วนสูง : 177 ซม น้ำหนัก : 70 กิโลกรัม สไตล์การต่อสู้ : มวยไทย ตั้งการ์ด : ถนัดซ้าย ได้รับรางวัลชนะเลิศแชมป์ลุมพินี และราชดำเนิน ใน 2 รุ่นน้ำหนักที่แตกต่างกัน และ 14 ครั้งกับเวิลด์แชมเปี้ยน จอมโหด ได้รับการยกย่องให้เป็นนักรบมวยไทยที่ดีที่สุดในโลกมวยไทย
จอมโหด เกิดในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2513 เขาเริ่มต้นฝึกมวยไทยตั้งแต่อายุ 7 ปี จอมโหดซ้อมทุกๆ วัน ตอนเช้า 2 ชั่วโมง ตอนเย็นอีก 2 ชั่วโมง เขาชนะครั้งแรกตอนอายุ 11 ปี ในรุ่นน้ำหนัก 38 กิโลกรัม การต่อสู้เป็นแบบดั้งเดิม โดยไม่มีการป้องกันหน้าแข้ง และระยะเวลาของการต่อสู้คือ 5 ยก ยกละ 3 นาที ค่าตัวสำหรับการต่อสู้คือ 200 บาท และนี่เป็นแรงบันดาลใจให้จอมโหด เข้าสู่อาชีพของเขา เขาเริ่มชกเดือนหนึ่ง 2-3 ครั้ง หลังจากอายุ 15 ปี เขาเริ่มเข้าฝึกที่ค่ายมวย อุทิศตัวเองอย่างเต็มที่ในการเล่นกีฬา และเขาจะออกจากค่ายเพื่อขึ้นชกเท่านั้น เขาเริ่มต้นแต่ละวันด้วยการวิ่ง 10 กิโลเมตร ต่อด้วยการฝึกในรอบเช้า และบ่าย ซึ่งจะเป็นการฝึกที่เข้มข้นมากขึ้น ในปี 1986 การฝึกซ้อมอย่างหนักเห็นผลตอบแทน จอมโหด ชนะการแข่งขันชิงแชมป์ภาคใต้ของประเทศไทย ในรุ่นน้ำหนัก 59.6 กิโลกรัม ในปีเดียวกันนั้นตอนอายุ 16 เขาย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ และเริ่มอาชีพการต่อสู้อย่างจริงจัง มีเวทีมวยอยู่หลายแห่งในประเทศไทย แต่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ ลุมพินี และราชดำเนิน แชมป์ของที่นั่นได้รับการยกย่องมากมีคุณค่าเหนือกว่าแชมป์อื่นๆ ของมวยไทย จอมโหด ขึ้นชกในเวทีลุมพินีเป็นครั้งแรกในปี 2532 โดยที่ทุกนัดเขาได้รับการจัดอันดับขึ้นมาเรื่อยๆ และหลังจากขึ้นชก 17 ครั้ง เขาได้รับรางวัลการแข่งขันชิงแชมป์ลุมพินี รุ่นน้ำหนัก 63.5 กิโลกรัม ในปี 2537 เขาได้รับรางวัลการแข่งขันชิงแชมป์ราชดำเนิน ในรุ่นน้ำหนักเดียวกัน ตามด้วยแชมป์ 67 กิโลกรัมในปีถัดไป
จอมโหด ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์โลกครั้งแรกในรุ่นน้ำหนัก 67 กิโลกรัม โดยการเอาชนะ รามอน “ไดมอนด์” เด็คเคอร์ ในปี 2539 ในปี 2538 จอมโหด ย้ายไปประเทศฟินแลนด์เพื่อไปชกมวย และไปเป็นครูฝึกที่นั่น เขาอาศัยอยู่ที่ฟินแลนด์เป็นเวลา 11 ปี ในช่วงปีนั้นๆ เขาได้รับรางวัลการแข่งขันชิงแชมป์โลกหลายรางวัล และเป็นครูฝึกให้นักชกที่ประสบความสำเร็จในหลายสโมสร หลังจากนั้น จอมโหด กลับมาอยู่ที่ประเทศไทยกับครอบครัว เขาฝึกซ้อม และเป็นครูฝึก 6 ปีที่ค่ายมวยเจประภา แต่เมื่อไม่นานนี้ เขาเพิ่งเปิดโรงยิมของตัวเองชื่อ จอมโหด มวยไทย ใกล้สนามบินภูเก็ต และหาดในยาง