ปัตตานี - พบเด็กชาวปัตตานีวัย 16 ปี ป่วยหลายโรค ซ้ำร้ายพ่อยังเป็นอัมพฤกษ์ร่างกายไม่สามารถขยับได้ โดยแม่เพียงคนเดียวคอยดูแล อาศัยอยู่ในกระท่อมขนาดเล็ก ใช้ชีวิตอย่างอัตคัดเนื่องจากมีฐานะยากจน บางวันทั้งครอบครัวไม่ได้อาบน้ำเพราะไม่มีน้ำประปา ด้านจังหวัดเร่งให้ความช่วยเหลือ
วันนี้ (23 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ว่า มีครอบครัวฐานะยากจนอาศัยกระท่อมเล็กๆ ริมถนน ลูกชายป่วยเป็นมะเร็ง และหัวใจรั่วนานนับ 10 ปี แถมพ่อยังเป็นอัมพฤกษ์ ฐานะยากจนไม่มีหน่วยงานเข้าดูแลจึงต้องใช้ชีวิตตามมีตามเกิดไปวันๆ
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยพบว่า เป็นบ้านขนาดเล็กสร้างด้วยไม้ และสังกะสี กว้าง 3 คูณ 3 เมตร ชั้นเดียวราบกับพื้นดิน ไม่มีห้องน้ำ แม้กระทั่งน้ำประปาก็ไม่มี พบ นายมะกอเซ็ง หะยีโซ๊ะ อายุ 50 ปี ยืนอยู่บริเวณบ้านสภาพร่างกายเป็นอัมพฤกษ์ด้านขวา รับว่าเด็กที่ป่วยคือ ลูกชายตน ชื่อ นายอาหามะซูวัน หะยีโซ๊ะ อายุ 16 ปี ซึ่งนอนอยู่ภายในบ้าน
เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปในบ้านก็พบกับภาพน่าเวทนา นางแมะซง หะยีโซ๊ะ อายุ 40 ปี ผู้เป็นแม่กำลังนั่งเช็ดตัวให้แก่ลูกที่นอนป่วยอยู่บนพื้นไม้กระดาษในบ้านที่ร้อนอบอ้าว โดยสภาพของ นายอาหามะซูวัน ร่างกายอ่อนล่าไม่มีแรง ตามลำตัว และผิวหนังมีแผลเต็มตัว แขนขาทั้ง 2 ข้างเหี่ยวเป็นสีดำคลายถูกไฟไหม้ และไม่สามารถขยับได้ แต่นายอาหามะซูวัน รู้สึกตัว และสามารถพูดคุยได้ช้าๆ
นางแมะซง หะยีโซ๊ะ มารดาเล่าให้ฟังว่า ชีวิตลำบากมากแต่ก็สู้เพื่อลูก ครอบครัวอยู่ด้วยกัน 4 คน มีลูกคนสุดท้องอายุ 12 ปี ไม่ได้เรียนหนังสือ ก่อนหน้านี้ตน และสามีได้ทำงานที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สำหรับลูกที่ป่วยสาเหตุมาจากช่วงอายุได้ 3 เดือน ตนได้นำลูกไปหยอดวัคซีนโปลิโอ ปรากฏว่า ลูกมีอาการไม่เคลื่อนไหวจึงได้นำลูกไปโรงพยาบาล หมอบอกว่าลูกมีปัญหาเรื่องหัวใจ และปอดส่งผลให้ร่างกายอ่อนแรง ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยมาก จนกระทั่งอายุเข้า 3 ขวบ อาการดีขึ้นสามารถเดินได้เหมือนเด็กปกติ จนกระทั่งอายุจะ 4 ขวบ ลูกก็ได้ล้มอีกครั้ง และไม่มีแรงที่จะเดิน ตนจึงนำไปโรงพยาบาล หมอบอกว่าลูกหัวใจรั่ว และเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว
โดยยังเป็นโรคหอบ และโรคเกี่ยวกับปอด ต้องใช้เครื่องออกซิเจนช่วยเมื่อมีอาการตนต้องหยุดทำงานเพื่อดูแลลูก ส่วนสามีซึ่งเป็นเสาหลักก็ล้ม และเป็นอัมพฤกษ์ต้องหยุดงานขาดรายได้ เมื่อสามีรักษาตัวอาการดีขึ้น ตนและครอบครัวก็ได้ย้ายไปปัตตานีขออาศัยที่ดินของโรงเรียนแห่งหนึ่งมาปลูกบ้านหลังนี้อาศัยแบบตามมีตามเกิด รายได้ก็มีบ้างที่สามีไปรับจ้างวันละ 100 บาท บางวันก็ไม่มีงาน ทุกวันนี้มีชาวบ้านดูแลบ้างแต่ไม่ทุกวัน บางวันไม่ได้อาบน้ำเพราะไม่มีประปาและห้องน้ำ แต่ก็ขอสู้เพื่อดูแลลูก
ด้าน นายสมนึก พรหมเขียว นายอำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทราบข่าวจึงแจ้งด่วนให้ตนจัดเจ้าหน้าที่อำเภอเข้าไปตรวจสอบหาข้อมูลเพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือแล้ว ยอมรับว่า ครอบครัวนี้เคยมาเช่าบ้านอยู่บริเวณหน้าอำเภอ และได้หายไป จนทราบว่ามาอาศัยเพลิงเล็กๆ สร้างขึ้นมาเองอยู่ภายในซอย
ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางอำเภอเคยให้ความช่วยเหลือในขั้นต้นโดยเฉพาะการให้การรักษา นายอาหามะซูวัน แต่ก็ไม่ทราบว่าอาการในขณะนี้เป็นอย่างไร ซึ่งตนจะเร่งให้การช่วยเหลือโดยเร็วต่อครอบครัวนี้ โดยเฉพาะเรื่องการรักษาที่ต่อเนื่อง เรื่องความเป็นอยู่ที่ถาวรว่าจะสามารถเข้าโครงการใดได้บ้าง และเรื่องอาชีพของพ่อ และแม่ เพื่อให้มีรายได้ ซึ่งจะประสานทางโรงพยาบาล และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตานี เพื่อทำความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อให้ครอบครัวนี้ได้มีขวัญกำลังใจ และมีชีวิตที่ดีขึ้น