xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านสนใจดูเรื่องราววัวกระทิงป่าพบรักแม่วัวบ้านออกลูก 11 ตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชุมพร - ชาวบ้านจำนวนมากสนใจติดต่อขอเข้าดูเรื่องราวความรักต่างสายพันธุ์อันฮือฮาของวัวกระทิงป่า ลงจากเขานาน 2 ปี จนพบรักผสมพันธุ์กับแม่วัวบ้าน ออกลูกถึง 11 ตัว

วันนี้ (22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเรื่องราวอันฮือฮาของวัวกระทิงป่าอายุ 5 ปี หนักกว่า 1,000 กิโลกรัม ลงจากเขานาน 2 ปี ที่ลงมาจากภูเขาเขตป่าอนุรักษ์ เข้ามาอาศัยอยู่พื้นที่หมู่ 8 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร จนพบรักผสมพันธุ์กับแม่วัวบ้าน ออกลูกถึง 11 ตัว และยังวนเวียนอยู่กับแม่วัวบ้าน และลูกๆ ของมันไม่กลับขึ้นเขาแต่อย่างใด จนหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องต่อสัตว์ป่าสงวนคุ้มครอง เริ่มวิตก เกรงว่าจะเกิดโรคระบาด หากไม่มีการควบคุมให้ดี จึงเชิญตัวแทนฝ่ายต่างๆ มาร่วมประชุมหาทางออกกรณีดังกล่าว ในขณะที่ชาวบ้านไม่ต้องการให้ผลักดันกลับไปอยู่ในป่าเพราะชาวบ้าน และวัวกระทิงต่างมีความคุ้นเคยไว้ใจซึ่งกันและกัน และได้นำเอาแม่วัวไปปล่อยทิ้งรอให้วัวกระทิงมาผสมพันธุ์กันทุกวัน เพื่อต้องการลูกที่ออกมารูปร่างสูงใหญ่ กล้ามเนื้อมาก ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

จากกรณีปัญหาดังกล่าว นายปฐม สาธิตานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า แนวทางแก้ไขกรณีกระทิงคงต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ทั้งนักวิชาการ นักอนุรักษ์ และชาวบ้าน เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุด และถูกต้องตามกฎหมาย เพราะกระทิงเป็นสัตว์ป่าสงวนคุ้มครอง จากการหารือล่าสุดยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากยังขาดความรู้ความเข้าใจ ซึ่งหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องและมีข้อมูลด้านสัตว์จะต้องชี้แจง และทำความเข้าใจต่อชาวบ้านให้มากขึ้น และพิจารณาหาข้อยุติกันให้ได้

นายฐากร ล้อมศตพร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า กระทิงได้พลัดหลงฝูงออกมาจากป่า และอยู่ในพื้นที่ของชาวบ้านเป็นเวลานานกว่า 2 ปีแล้ว ทำให้พฤติกรรมของสัตว์ป่าเปลี่ยนไป กระทิงซึ่งเป็นสัตว์ค่อนข้างดุ ตอนนี้ค่อนข้างเชื่อง มีความคุ้นเคยกับชาวบ้าน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ต้องอยู่ห่างอย่างน้อย 50 เมตร แต่ปัจจุบันสามารถเข้าใกล้ได้ในระยะ 5 เมตรเท่านั้น

“ต้องการในทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อกระทิงตัวดังกล่าว ซึ่งตามแนวคิดคือ สัตว์ป่าก็ควรอยู่ในป่า แต่ถ้าหากว่านำสัตว์ป่าไปไว้ในป่าแล้วเกิดอันตรายก็ต้องหาทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยกว่า ความคิดเห็นของชาวบ้านขณะนี้ มีความรัก และผูกพันกับกระทิงมาก ไม่ต้องการให้ย้ายไปไหน และต้องการให้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร เป็นผู้ดูแล ซึ่งแนวทางดังกล่าวต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องเสนอโครงการขึ้นไปถึงเหตุผลความจำเป็น และการดูแลตามหลักวิชาการ ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงจะดำเนินการได้ แต่สิ่งที่ดำเนินการได้เลยขณะนี้คือ การเฝ้าระวังเรื่องโรคติดต่อ ซึ่งทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 ได้จัดสัตวแพทย์ดูแลเรื่องนี้เป็นการพิเศษแล้ว” นายฐากร กล่าว

ด้าน นายนิรันดร์ ไชยชนะ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร กล่าวว่า ตอนแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีชาวบ้านไปเจอกระทิงตัวนี้อยู่ในแปลงยางพาราปลูกใหม่ ด้านหลังของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก เขาก็แจ้งทางอำเภอ ทางจังหวัด หลังจากนั้น ก็มีนายอำเภอ มีผู้ว่าฯ มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และกรมอุทยาน มาเฝ้าอยู่ระยะหนึ่ง มาขอสถานที่ที่วิทยาลัยฯ เพื่อเฝ้าระวังแล้วก็หายไป ต่อมากระทิงเริ่มทับผสมพันธุ์กับวัวของคนงานในวิทยาลัยฯ ที่สวนมะพร้าว แล้วตั้งท้อง จนพฤติกรรมของกระทิงก็เปลี่ยนจากวัวป่ามาเป็นวัวบ้าน มีแม่วัวบ้านผสมด้วยกว่า 20 ตัว มีชาวบ้านจาก อ. หลังสวน อ.สวี บรรทุกแม่วัวมาผสมเข้ารอคิวกันทุกวัน

“ส่วนทางออกตอนนี้หากเอาวัวกระทิงไปปล่อยคืนสู่ป่าอาจจะเป็นอันตรายมากขึ้น เพราะวัวกระทิงไม่สามารถเข้าฝูงได้ และคุ้นเคยกับมนุษย์จะทำให้ถูกพรานล่าได้ง่าย ขณะที่อยู่ในพื้นที่ชาวบ้านเขาหวงแหนช่วยกันอนุรักษ์ช่วยกันดูแลอยู่แล้ว หากมองในเรื่องทางวิชาการเพื่อการวิจัยนั้นตนเห็นด้วย เพราะกระทิงออกจากป่ามาแล้วจะเอาไปให้สวนสัตว์เขาก็มีเยอะแล้ว ถ้าเอาเข้าป่าก็มีปัญหา แต่ถ้าไว้ที่นี่ได้ก็ต้องมีเจ้าของเรื่อง มีหน่วยงานร่วมเพื่อสามารถทำการวิจัยได้ต่อไปได้ เมื่อผสมแล้วลูกวัวที่ได้ก็ 50-50 ถ้าจะพัฒนาอีกก็ต้องเอาไปผสมกับพ่อพันธุ์ตัวอื่นให้เป็น 70-80 ตอนนี้ยังไม่มีการวิจัยถึงผลประโยชน์ หรือข้อดีข้อเสียของลูกผสมกระทิงกับวัวบ้านว่าดีหรือไม่” รองผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร กล่าว

นายจำนง ไทยถาวร อายุ 62 ปี ชาวบ้าน ม.8 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร กล่าวว่า ตนนำแม่วัวบ้านให้กระทิงป่าทับ 2 ตัว ตัวแรกเกิดลูกแล้วเป็นตัวผู้ อายุเกือบ 2 ปีแล้ว ส่วนอีกตัวอยู่ระหว่างการตั้งท้องได้ 2 เดือนเศษ ที่ผ่านมา มีคนถ้าซื้อเหมือนกัน แต่ไม่ขายเพราะเพิ่งได้ตัวแรกอยากจะเลี้ยงไว้ดูว่าเมื่อโตขึ้นจะมีรูปร่างอย่างไร

นายประทีป ทองศรีเกษ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.8 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร กล่าวว่า ได้ลูกกระทิงแล้ว 2 ตัว สีทอง มีลายดำเหมือนเสือ 1 ตัว และสีดำ 1 ตัว เป็นตัวผู้ทั้งหมด โดยตัวสีดำเป็นตัวที่คล้ายกระทิงมากที่สุด ทั้งข้อเท้า และโหนกหลัง ที่แตกต่างจากวัวทั่วไปคือ ลูกกระทิง เขาจะโต และยาวเร็วกว่าวัวบ้านมาก ส่วนรูปร่างความดุร้ายคงต้องรอให้โตกว่านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ข่าววัวกระทิงป่าลงจากเขามานาน 2 ปี พบรักกับแม่วัวเลี้ยงของชาวบ้านหลายตัวจนตกลูกออกมาแล้ว 11 ตัว และยังคงอาศัยหากินอยู่ตามสวนปาล์มน้ำมันพื้นที่การเกษตร และวนเวียนไปหาหาสู่กับแม่วัว และลูกวัวที่เกิดจากกระทิงป่าตัวดังกล่าวจนเกิดความผูกพันกันระหว่างกัน และยังคุ้นเคยกับชาวบ้านที่ช่วยกันดูแลไม่ให้ใครมาทำร้าย หรือล่า จนทำให้เกิดประแสฮือฮามีชาวบ้านจากในจังหวัด และต่างจังหวัดสนใจสอบถามไปยังผู้นำชุมชน หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกันเป็นจำนวนมาก เพื่ออยากจะเข้าไปเยี่ยมชมเรื่องราวชีวิตของวัวกระทิงป่า กับวัวเลี้ยงของชาวบ้านกันจำนวนมาก
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น