ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับฝ่ายปกครองท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบการลักลอบค้างาช้างในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ หลังพบไทยเสี่ยงถูกกีดกันสินค้าเกษตรปีละกว่า 5 หมื่นล้านบาท การตรวจครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และเจ้าหน้าที่ไม่พบการกระทำผิดแต่อย่างใด
วันนี้ (21 ม.ค.) นายสุพจน์ เพริศพริ้ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สงขลา) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยเจ้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการตรวจสอบการลักลอบการจำหน่ายงาช้างแอฟริกาภายในร้านทอง และร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกภายในตัวเมือง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเฉพาะบริเวณ ถ.นิพัทธิ์อุทิศ 1, 2 และ 3 ซึ่งเป็นย่านธุรกิจการค้า การท่องเที่ยว เพื่อเป็นการป้องกันการลักลอบการค้างาช้างแอฟริกาตามอนุสัญญาไซเตส
หลังจากประเทศไทยตกอยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะถูกกีดกันในเรื่องสินค้าการเกษตรประมาณปีละ 5 หมื่นล้านบาท หากยังคงปล่อยให้มีการค้างาช้างแอฟริกากันอย่างเสรี โดยปราศจากการควบคุม ซึ่งล่าสุด คณะรัฐมนตรีได้มีมติในการอนุมัติให้ช้างแอฟริกาอยู่ในบัญชีสัตว์คุมครอง ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. นี้เป็นต้นไป
ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยผู้ประกอบการทั้งร้านทอง และร้านขายของที่ระลึกต่างให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเป็นอย่างดี และเจ้าหน้าที่ไม่พบการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการค้างาช้างแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่มีงาช้างอยู่ในครอบครองสามารถไปขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ในพื้นที่ใกล้เคียงทั้ง 16 แห่งทั่วประเทศ สำหรับการลักลอบค้างาช้างแอฟริกาจะมีความผิดต้องระวังโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
