สุรินทร์ - ตำรวจภูธรสุรินทร์ จับกุมผู้ค้างาช้างแอฟริการายใหญ่ต้นปี มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท สารภาพรับงาช้างจากกลุ่มคนที่รู้จักกันในวงการค้างาช้างจากอำเภอบางบัวทอง นนทบุรี รับมาเพื่อขายต่อ และบางส่วนก็จะแปรรูปเป็นเครื่องประดับ
วันนี้ (1 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ห้องปฎิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พล.ต.อ.สมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบค้างาช้างจากต่างประเทศ งาช้างแอฟริกา ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับ พล.ต.ต.กาญจน์พศ ศิริชาญพนา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์
โดยตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา หลังจากมีการสืบทราบว่า มีการลักลอบขนงาช้างแอฟริกาเข้าซุกซ่อนไว้เพื่อขายที่บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ จนสืบทราบว่า นายกัมพล หรือเรียม น้อยถนอม อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 14 ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้ลักลอบค้างาช้าง จึงเข้าทำการจับกุมและตรวจค้น
พบงาช้าง จำนวน 51 กิ่ง น้ำหนักรวม 134.7 กิโลกรัม ราคาประมาณ 5,388,000 บาท ซุกซ่อนในถังน้ำแข็งบรรทุกไว้ท้ายกระบะรถยนต์ปิกอัพยี่ห้ออีชูชุ 4 ประตู ทะเบียน กฉ 4858 บุรีรัมย์ จอดไว้ในกระท่อมบ้านตากลาง เจ้าหน้าที่จับกุมยึดงาช้างต่างประเทศ งาช้างแอฟริกา ดำเนินคดีในข้อหามีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (งาช้าง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 นำเข้าหรือพาสิ่งของที่ยังไม่ได้เสียภาษีหรือสิ่งของต้องจำกัด ซื้อ หรือรับไว้ประการใดๆ ซึ่งของที่ยังไม่ผ่านพิธีศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไปรับงาช้างแอฟริกาจากกลุ่มคนที่รู้จักกันในวงการค้างาช้างจากอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี รับมาเพื่อขายต่อ และบางส่วนก็จะแปรรูปเป็นเครื่องประดับ จากงาช้าง และส่งขายไปตามตลาดต่างๆ ทั่วประเทศ
ด้าน พล.ต.อ.สมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อจับกุม และปราบปราบขบวนการค้างาช้างเถื่อนให้ลดน้อยลง เนื่องจากจังหวัดสุรินทร์ เป็น 1 ใน 12 จังหวัดที่ต้องมีการตรวจสอบการค้างาช้างผิดกฎหมาย
พร้อมทั้งยังมีร้านค้างาช้างอีก 30 กว่าร้านค้า ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จะต้องตรวจสอบ และหากผิดกฎหมายก็ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นานาชาติ โดยเฉพาะองค์กรไซเตส (CITES) อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งจะเชื่อมั่นว่าไทยได้ทำการจับกุม และปราบปรามอย่างต่อเนื่อง
