ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผอ.อนุรักษ์สัตว์ป่าฯ เขต 8 ขอนแก่น สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบหาแหล่งลักลอบค้างาช้างในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เบื้องต้นไม่พบทำผิดกฎหมาย เผยหากพบว่าผู้ใดมีไว้ในครอบครองโดยมิชอบด้วย กม.มีความผิดจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 พ.ย.) เวลาประมาณ 11.00 น. นายพนม พงษ์สุวรรณ ผู้อำนวยการอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 ขอนแก่น สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สนธิกำลังตำรวจและทหารในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น นำโดย พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการค้างาช้าง เพื่อสืบสวน ตรวจค้น จับกุม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้างาช้าง ลงพื้นที่สุ่มตรวจการลักลอบค้างาช้างในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
นายพนม พงษ์สุวรรณ ผู้อำนวยการอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ กล่าวว่า ตนในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบงาช้าง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านเช่าพระและจำหน่ายเครื่องประดับที่จุดแรกในตลาดตองแปด เขตพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น ไม่พบว่ามีการลอบค้างาช้างแต่อย่างใด มีเพียงการนำงาช้างมาประดับไว้ในร้านเพื่อครอบครองเท่านั้น ซึ่งไม่ถือว่าผิดกฎหมาย
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ส่วนใหญ่สินค้าที่วางขายมีชิ้นส่วนของซากวัวและกระบือ หรือ (เรซิน) และกระดูกของนกกระจอกเทศเป็นส่วนที่มีลักษณะการเลียนแบบให้เหมือนงาช้างเท่านั้น
นายพนมกล่าวต่อว่า ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส (CITES) จึงมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องมีมาตรการควบคุมการค้างาช้าง หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากการแปรรูปงาช้างภายในประเทศมิให้ปะปนกับงาช้างที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีผู้ใดถือครองงาช้างมีไว้เพื่อการจำหน่ายหรือนำงาช้างมาแปรรูปจะดำเนินข้อหาการครอบครองซากสัตว์ป่าโดยมิชอบ มีความผิดปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 4 ปี ต่อไป