xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรยะลายันราคายางต้องกิโลกรัมละ 80 บาทจึงคุ้มทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - ตลาดกลางยางพารายะลา เปิดตลาดรับซื้อยางแผ่นรมควันชั้น 1 ขายได้กิโลกรัมละ 62 บาทจริง ในขณะที่เกษตรกรชาวสวนยางเผย 80 บาทต่อกิโลกรัม คือ ราคาที่เหมาะสม เพราะต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูง

วันที่ (20 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณตลาดกลางยางพาราจังหวัดยะลา ถนนสุขยางค์ อ.เมือง จ.ยะลา ว่า มีบรรดาเกษตรกรชาวสวนยาง ทยอยกันนำยางแผ่นดิบมาขายให้แก่ทางตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกรที่รวบรวมยางจากเกษตรกรในพื้นที่นำออกมาจำหน่าย โดยเช้าวันนี้ราคายางรมควัน ชั้น 1 รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 62.70 บาท ส่วนยางแผ่นดิบ รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 58.10 บาท

นายชุมพล กิติสาธร เกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา กล่าวว่า สำหรับราคายางในวันนี้ตนเองมองว่ายังต่ำอยู่ คือ ในขณะนี้ราคาคงไม่เกิน 60 บาท แต่เมื่อมองปัจจัยการผลิตยางนั้นยังมีต้นทุนที่สูงอยู่ เมื่อมาเทียบกับราคา 60 หรือ 62 บาทนั้น ก็ยังคงถือว่าต่ำอยู่ โดยตนเองเชื่อว่าราคาที่เหมาะสมที่สามารถให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางอยู่ได้ก็น่าจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท ต้นทุนการผลิตการทำสวนยางคือ การจ้างแรงงาน เนื่องจากเจ้าของสวนยางจะแบ่งรายได้ครึ่งหนึ่งให้แก่ลูกจ้างที่มารับจ้างกรีดยาง ซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนค่าแรงที่ค่อนข้างจะสูง

“สำหรับราคายางแผ่นรมควันชั้น 1 ที่ทางรัฐบาลบอกว่า 62 บาทต่อกิโลกรัมนั้น ก็ขายได้จริง แต่ความเป็นจริงแล้วยางแผ่นรมควันก็มีเพียงไม่กี่กลุ่มที่ดำเนินการ พี่น้องเกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงขายเป็นยางแผ่นดิบ น้ำยางเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งราคาก็ไม่ได้สูงนัก โดยยางแผ่นดิบราคาก็อยู่ที่ 50 กว่าบาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น ที่ผ่านมา ภาครัฐก็มีการส่งเสริมให้ความรู้การผลิตยางคุณภาพให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ เพื่อที่จะสามารถผลิตยางที่มีคุณภาพ แต่ก็มีไม่กี่รายที่สามารถทำได้ ส่วนใหญ่ก็ยังคงผลิตยางแผ่นดิบออกมาขาย” นายชุมพล กล่าว

ด้าน น.ส.จิตรานุช เรืองกิจ นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ ตลาดกลางยางพาราจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ตั้งแต่โครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง เข้ามาตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ก็ได้ดำเนินการเตรียมรับยางแผ่นดิบจากพี่น้องเกษตรกร ทั้งเกษตรกรที่รวมกลุ่ม และเกษตรกรรายย่อยที่สามารถผลิตยางแผ่นดิบได้ ส่วนราคาในขณะนี้ ยางแผ่นดิบคุณภาพดี อยู่ที่ 58.10 บาทต่อ กก. ส่วนยางรมควันที่ทางองค์การสวนยางกำหนดคือ 62.70 บาทต่อ กก.

ซึ่งล่าสุด วานนี้ (19 ม.ค.) มีเกษตรกรชาวสวนยาง นำยางมาขายรวมแล้ว 34 ตัน ส่วนปัญหาที่พบก็คือ ตลาดกลางยางพารายะลา เป็นตลาดที่กลุ่มเกษตรกรรายย่อย ที่คุณภาพยางยังไม่พัฒนาไปถึงยางคุณภาพดี เนื่องจากส่วนใหญ่ทำกันในหมู่บ้านเป็นรายย่อย ไม่ได้รวมกลุ่ม ทำให้ราคาที่เกษตรกรได้นั้นยังต่ำอยู่ ยังไม่สามารถได้ถึงราคาที่ทางรัฐบาลให้ โดยในพื้นที่ยะลาก็จะมีไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่ผลิตยางรมควันชั้น 1 คุณภาพดีออกมาจำหน่ายที่ตลาด โดยมีเพิ่มขึ้นเพียง 4 กลุ่ม จากพื้นที่ อ.เบตง และ ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา



 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น