พัทลุง - เกษตรกรสวนปาล์มเมืองลุงหวั่นรัฐทุ่มเงิน 1,500 ล้าน ซื้อปาล์มต่างประเทศส่งผลราคาปาล์มร่วงหนัก ชี้ขณะนี้ปัญหาขาดแคลนน้ำมันปาล์มยังไม่เข้าขั้นวิกฤต แนะสร้างโกดังเก็บน้ำมันปาล์มสำรองเพื่อแก้ปัญหา เกรงมีนัยไม่สุจริต
วันนี้ (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณีที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ และกระทรวงพาณิชย์ เตรียมที่จะชงเรื่องปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์มให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณจัดชื้อน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศมาชดเชยในส่วนที่ขาดแคลน จำนวน 50 ล้านลิตร วงเงินไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันทั่วภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ที่มีการปลูกปาล์มน้ำมัน และกำลังเก็บผลผลิตไม่ต่ำ 50,000 ไร่ ในขณะนี้เกรงจะได้รับผลกระทบราคาปาล์มอาจจะร่วงเหมือนปีที่ผ่านมาเมื่อมีการนำน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศ
โดย นายโอภาส หนูชิต ประธานสหกรณ์ปาล์มน้ำมันจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า การนำน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศเข้ามาเคยเป็นบทเรียนให้แก่เกษตร โดยราคาปาล์มจะร่วงสุดจากที่เคยขายได้ 5 บาทกว่า ราคาตกลงเหลือ 3.50 บาท และปีนี้ก็เช่นกัน หากรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ และคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ จะดำเนินการจัดชื้อน้ำมันปาล์มเข้ามาอีกจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรโดยตรง ซึ่งปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์มน้ำมันถือว่ายังไม่วิกฤต เพราะขณะนี้ต้นปาล์มอยู่ในยะพักฟื้นช่วงธันวาคม-กุมภาพันธ์ และหลังจากนี้ ช่วงมีนาคม ปาล์มน้ำมันจะออกมาสู่ตลาดตามปกติอีกครั้ง
ส่วนการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันขาดตลาดนั้น ตนอยากให้กระทรวงพาณิชย์ สร้างไซโล หรือโกดังเก็บน้ำมันปาล์มสำรองให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสำรองน้ำมันปาล์มที่จะออกสู่ตลาดของเกษตรไว้สำรองในช่วงปาล์มพักฟื้นตัว โดยให้สหกรณ์ หรือกลุ่มสมาพันธ์ต่างเป็นผู้ดูแล และเก็บรักษาตามพื้นที่นั้น
และการที่คณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ เร่งจัดชื้อในครั้งนี้อาจจะมีนัยอะไรอยู่ เพราะราคาปาล์มน้ำมันดิบจากต่างประเทศขณะนี้อยู่ที่ลิตรละ 18-19 บาท แต่เมื่อชื้อเข้ามาสำรองราคาจะสูงถึงลิตรละ 26 กว่าบาท ซึ่งส่วนต่างของเม็ดเงินตรงนี้ใครได้ประโยชน์ และอยากให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ออกมาชี้แจงให้เกษตรกรได้เข้าใจด้วย