รมช.ศึกษาฯ ตามแผนพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ จชต. หนุนโครงการ “รินน้ำใจสู่น้องชาวใต้”

ยะลา - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยมติดตามการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมขยายผลการเรียนการสอนทางไกลผ่านระบบดาวเทียม หนุนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ดำเนินโครงการรินน้ำใจสู่น้องชาวใต้

วันนี้ (12 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานศึกษาธิการภาค 12 ศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษา จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้า) พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และติดตามผลการดำเนินงานพัฒนาการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยร่วมกับผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายสามารถ วราดิศัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายอดินันท์ ปากบารา ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ผู้แทนหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อติดตามแผนบูรณาการการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการก่อสร้างอาคารเรียนให้แก่โรงเรียนที่ถูกลอบวางเพลิงในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง และ อ.มายอ จ.ยะลา ระบบมาตรการรักษาความปลอดภัยครู การอบรม พัฒนาบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนการขยายผลโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมของโรงเรียนขนาดกลางใน จชต.

ในการนี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เพื่อติดตามงานที่ได้ดำเนินการที่ผ่านมาโดยเน้นในห้วงเวลา 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ คือ ตุลาคมถึงธันวาคม ปี 2557 ว่า ได้มีการดำเนินโครงการอะไรบ้างอย่างละเอียด และเป็นการประเมินว่ามีผลอย่างไร มีปัญหาอุปสรรคอะไรที่จะต้องแก้ไข และวางแผนงานที่มีอยู่แล้วในห้วงถัดไป คือ เดือนมกราคม ถึงมีนาคม ใน 3 เดือนต่อมา ที่จะเน้นในเรื่องอะไรบ้าง

ส่วนใหญ่งานต่างๆ คืบหน้าไปโดยลำดับถึงแม้ว่าจะมีเรื่องอย่างเช่น การบริหารงบประมาณยังไม่เข้าเป้าของรัฐบาลซึ่งได้เร่งรัดให้ดำเนินการในห้วงต่อไปให้ดีขึ้น เรื่องที่สร้างโรงเรียน สร้างอาคารที่ขอรับการอุดหนุนจากกองทัพในงานการช่าง ไปทดแทนโรงเรียนที่ถูกลอบวางเพลิง เมื่อเดือนตุลาคม ที่อำเภอทุ่งยางแดง ก็มีความคืบหน้า และทันแน่นอนที่จะมีอาคารเรียนให้นักเรียนในช่วงเปิดการศึกษาต่อไป เรื่องมาตรการการรักษาความปลอดภัยครู ซึ่งทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หน่วยงานความมั่นคง พลเรือน ตำรวจ ทหาร ตลอดจนประชาชนได้ให้ความสำคัญมากขึ้นโดยลำดับมากเป็นพิเศษ

มาตรการเหล่านี้ก็มาเน้นย้ำบุคลากรทางการศึกษาผู้แทนครูที่ตั้งไว้ในระดับจังหวัดและอำเภอด้วยที่จะประสานร่วมกับทางฝ่ายความมั่นคงก็คิดว่าจะทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้นโดยลำดับ ขอความร่วมมือผ่านสื่อในการช่วยกันรักษาในส่วนนี้ไว้ ให้การพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพราะฉะนั้นใครที่มุ่งร้ายที่จะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยก็ถือว่าทำร้ายพื้นฐานการพัฒนาชาติ คือ การศึกษาในส่วนของงานที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องการขยายผลโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมที่ทำทั่วประเทศ

โดยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีการจัดนิเทศงานซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยใน 300 กว่าโรงเรียน และเป็นภาพรวมว่าหลังจากดำเนินการมาตั้งแต่ภาคเรียนที่ 2 ที่ผ่านมาเดินหน้าด้วยดี มีแผนที่จะดำเนินการต่อในโรงเรียนขนาดกลาง พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีเป้าหมายอีก 700 กว่าโรงเรียน มีนักเรียนที่จะร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก มั่นใจว่าคุณภาพการศึกษาจะดีขึ้นโดยลำดับ ลดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมทั่วถึงกัน และลดปัญหาในเรื่องของโรงเรียนที่ขาดแคลนครู รับครูไม่ตรงสาขาวิชา ก็จะได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นไปโดยลำดับ

ส่วนในเรื่องของการนำการกีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษาวันนี้ก็จะได้ข้อมูลที่เกือบครบถ้วนสมบูรณ์ มีมาตรการแผนดำเนินการทั้งระยะสั้นในการที่จะมีมหกรรมกีฬาทั่วทุกอำเภอ ทุกเขตพื้นที่ ทุกโรงเรียน โดยร่วมมือกันทุกฝ่ายทั้งฝ่ายความมั่นคงที่จะนำการกีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษาและประชาชนด้วย ระยะสั้นจะเป็นในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน ระยะกลางก็จะมีโปรแกรมการเรียนในเรื่องกีฬาเข้าไปอยู่ในการศึกษาด้วย ส่วนระยะยาวอยู่ในระหว่างจัดทำข้อมูล คิดว่าภายใน 2 อาทิตย์จะมีความสมบูรณ์ทั้งหมดในข้อมูลนำไปสู่ที่กระทรวงพิจารณาในเรื่องของการสนับสนุนและจะชี้แจงรายละเอียดอย่างครบถ้วนอีกครั้ง

นอกจากนั้น ก็จะเป็นเรื่องทั่วไปที่จะได้มีการพิจารณากันในเรื่องของงานที่ผ่านมา และงานที่จะทำต่อไป ส่วนผู้แทนทางการศึกษามีการร้องขอในเรื่องพัฒนาคุณภาพ เรื่องสิทธิ เรื่องของการเยียวยา ซึ่งคณะทำงาน คณะกระทรวงของทางรัฐบาลให้การดูแลอย่างเต็มที่ ก็ได้รับการดูแลดีขึ้นมาโดยลำดับจากช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีความคืบหน้าในทุกๆ เรื่องทุกกรณี จะมีการทบทวนกันในช่วงท้ายๆ ว่าเราได้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” นำมาเป็นหลักในการปฏิบัติ และทางนายกรัฐมนตรีก็ได้ให้แนวทางในเรื่องของการนำความรู้คู่คุณธรรมเข้ามาอยู่ในการคิดงานต่างๆ ด้วย คิดว่าจะสอดแทรกในส่วนนี้ในการทำงานในห้วงต่อไปอย่างเข้มแข็ง ทำให้กระทรวงศึกษาธิการ หรือในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทำงานอย่างเข้มแข็งมากขึ้น

และในช่วงสัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้ามีโครงการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จัดครูจากส่วนกลางมาให้มีการติวเข้มให้แก่นักเรียนช่วงนี้ ซึ่งดำเนินการอยู่ทุกวันจังหวัดพร้อมๆ กันในห้วงเวลาใกล้เคียงกันใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ที่จะทำให้เน้นเพิ่มเติมให้เป็นพิเศษ

นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังได้กล่าวถึงโครงการรินน้ำใจสู่น้องชาวใต้ด้วยว่า รัฐบาลพยายามที่จะสรรหาบุคลากร หรืออาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถ เดินทางลงมาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อติวให้แก่เด็กๆ และเพื่อให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ ทาง ศอ.บต. และ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ก็ได้จัดโครงการติวผ่านระบบวิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ สำหรับการจัดโครงการดังกล่าว เพื่อให้ความรู้ทางวิชาการแก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เสริมศักยภาพแก่นักเรียนในการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา

รวมถึงสถาบันการศึกษาอื่นเพิ่มขึ้นให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา เขต 3 ประกอบด้วย อำเภอนาทวี สะเดา จะนะ เทพา และสะบ้าย้อย อีกทั้งเป็นการสร้างโอกาส สร้างคุณภาพที่ดีให้แก่ครู และนักเรียนในพื้นที่ โดยได้มีการจัดทำการประเมินคุณภาพทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง พบว่าแนวโน้มของเด็กนักเรียนในเขตพื้นที่พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจฯ มีโอกาสสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยได้มากขึ้น ประกอบกับนักเรียนมีเทคนิคในการทำข้อสอบได้ดีขึ้น ตลอดจนเพื่อสร้างประสบการณ์ตรง และการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นของนักเรียน และครู ซึ่งบรรยากาศของการสอนเสริมความรู้เป็นไปอย่างสนุกสนาน