ผู้ว่าฯ ภูเก็ตประกาศจัดระเบียบแคมป์คนงานในพื้นที่ หวั่นสร้างสารพัดปัญหา

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ประกาศจัดระเบียบแคมป์คนงานหลังเกิดเหตุคนงานในแคมป์ที่สนามบินก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันระหว่างแรงงานชาวพม่า และกัมพูชา เดินหน้าตั้งคณะกรรมการจัดระเบียบให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่การพิจารณาอนุญาติจัดสรรที่ดินจะต้องเน้นตรวจสอบเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยส่วนรวม

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (9 ม.ค.) ที่ห้องประชุม หอทะเบียนที่ดิน 2459 สำนักงานที่ดินจังหวัด นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายวัชรินทร์ เจตนาวาณิชย์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ นายสิต กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะฝากให้คณะกรรมการจัดสรรที่ดินนำไปใช้ และเป็นแนวทางในการพิจารณาอนุมัติโครงการจัดสรรที่ดินในจังหวัดภูเก็ต คือ เรื่องของการจัดระเบียบแคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งในการก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรร หรือโครงการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ล้วนต้องใช้คนงานชาวต่างชาติเกือบทั้งสิ้น

ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทางจังหวัดจะต้องกำหนดมาตรการการในการจัดระเบียบแคมป์คนงานในพื้นที่ ซึ่งจากการศึกษาเก็บข้อมูลของทางสำนักงานจังหวัดภูเก็ต พบว่า ในจังหวัดภูเก็ต มีแคมป์แรงงานต่างชาติที่มีแรงงานตั้งแต่ 20-2,000 คน มากถึง 1,500 แห่ง และเมื่อช่วงคืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันของคนงานภายในแคมป์คนงานก่อสร้างที่บริเวณสนามบินจังหวัดภูเก็ต ระหว่างแรงงานกัมพูชา ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก จึงอยากให้มีการจัดระเบียบแคมป์คนงานขึ้น และจากการไปตรวจสอบที่แคมป์คนงานพบว่า มีการอยู่อาศัยกันอย่างไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่ถูกสุขอนามัย และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย จึงจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระเบียบอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมา

อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์หน้าตนจะแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อตรวจสอบ และจัดระเบียบแคมป์คนงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตทั้งหมด ทั้งเรื่องของสถานที่ตั้งแคมป์ จำนวนคนงานที่อยู่ในแคมป์ รวมไปถึงเรื่องของอาวุธต่างๆ ที่คนงานอาจจะนำมาซุกซ่อนไว้ ซึ่งจะต้องให้ผู้ประกอบการแจ้งข้อมูลต่างๆ มายังจังหวัดเพื่อให้รับทราบข้อมูล เพราะปัจจุบันนี้ไม่มีใครทราบว่าแคมป์คนงานในจังหวัดภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ไหนบ้าง ซึ่งต่อไปนี้ผู้ประกอบการจะต้องดูแลแคมป์คนงานให้อยู่อย่างถูกสุขลักษณะ และอนามัย รวมทั้งต้องดูแลไม่ให้มีปัญหาเรื่องของการทะเลาะวิวาทระหว่างคนงานด้วยกัน

นายนิสิต ยังได้กล่าวต่อไปว่า สำหรับในส่วนของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินก็สามารถที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดระเบียบแคมป์คนงานได้ ซึ่งในการพิจารณาโครงการจัดสรรต่างๆ ก็ได้เพิ่มข้อมูลในส่วนของที่ตั้งแคมป์ และจำนวนคนงานภายในแคมป์ให้ทางคณะกรรมการได้รับทราบด้วย นอกจากนั้น สิ่งที่คณะกรรมการจะต้องพิจารณา และให้ความสำคัญคือ เรื่องของสิ่งแวดล้อม เรื่องของทางเข้า เรื่องของระบบบำบัดน้ำเสีย การก่อสร้างกีดขวางทางน้ำ หรือการถมขุมน้ำ และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญในการพิจารณาแต่ละโครงการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่โครงการเสนอเข้ามาพิจารณาจะต้องเข้าร่วมพิจารณาด้วย เพื่อชี้แจ้งข้อมูลรายละเอียดที่ชัดเจนให้แก่คณะกรรมการคนอื่นๆ ได้รับทราบ ซึ่งปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่า โครงการบ้านจัดสรรในจังหวัดภูเก็ต มีผู้บริโภคร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก การพิจารณาจึงจะต้องมีความชัดเจนและรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อผู้บริโภคภายหลัง

ขณะที่ในการประชุมคณะกรรมการจัดสรรที่ดินในครั้งนี้ คณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้พิจารณา และอนุมัติโครงการบ้านจัดสรรที่ยื่นขอจัดสรรเข้ามาทั้งหมด 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการอโนชา วิลล่า ของบริษัท อโนชา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งอยู่บริเวณตำบลเทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต บนเนื้อที่ 21 ไร่ จำนวน 145 แปลง ซึ่งมีทั้งบ้านแฝดชั้นเดียว บ้านเดี่ยวชั้นเดียว บ้านแถวชั้นเดียว และที่ดินเปล่า

โครงการอนัญดา เลควิว ของบริษัท อนัญดา กะตะ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต บนเนื้อที่ 26 ไร่ มีทั้งบ้านเดี่ยวชั้นเดียว บ้านแฝดชั้นเดียว และที่ดินเปล่า และโครงการเดอะ เบย์ ของบริษัท 89 แคปริคอร์น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ที่บริเวณสะพานหิน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต บนเนื้อที่ 6 ไร่ จำนวน 56 แปลง มีทั้งบ้านแฝด 2 ชั้น และอาคารพาณิชย์ เป็นต้น

โดยในการพิจารณาการจัดสรรนั้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เน้นย้ำต่อทางคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดภูเก็ต ให้คำนึงบริบทด้านต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการขีดขวางทางน้ำที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมตามมา ปัญหาการระบายน้ำ ปัญหาน้ำเสีย ขยะ สิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมไปถึงคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้บริโภค โดยอยากจะให้คำนึงถึงปัญหาที่จะตามมาภายหลังการขายโครงการไปแล้วอีกด้วย