ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สำนักทางหลวงชนบทที่ 12 สงขลา นำรถแบ็กโฮ และหินขนาดใหญ่ทำเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งชั่วคราว หลังคลื่นลมแรงกัดเซาะชายฝั่ง จนต้นสนริมชายหาดล้มระเนระนาดกว่า 20 ต้น รวมทั้งเพื่อป้องกันถนนเลียบชายทะเลสายสงขลา-นาทับ ไม่ให้ถูกคลื่นกัดเซาะอีกด้วย เตรียมของบสร้างเขื่อนกันคลื่นแบบถาวร
วันนี้ (9 ม.ค. ) บริเวณชายฝั่งจังหวัดสงขลา มีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่งอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งถนนเลียบชายทะเล หมายเลข สข.2004 ของกรมทางหลวงชนบท สายสงขลา-นาทับ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา จะมีคลื่นลมแรงกว่าที่บริเวณอื่นๆ ทำให้บริเวณชายฝั่ง กม. 32 ซึ่งยังไม่มีการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น ถูกคลื่นกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงทำให้ต้นสนล้มระเนระนาดกว่า 20 ต้น เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา และยังกัดเซาะเข้ามาจนถึงริมถนนเลียบชายทะเลอีกด้วย
นายสมชาย รัตนสมบูรณ์ นายช่างเครื่องกลชำนาญการ สำนักทางหลวงชนบทที่ 12 สงขลา ซึ่งได้รับมอบหมายให้มาควบคุมดูแลแก้ปัญหาที่เกิดความเสียหายจากภัยพิบัติ ในเส้นทางสาย สข.2004 นี้ เปิดเผยว่า งบประมาณฉุกเฉินที่ใช้ในการซ่อมภัยพิบัติ เนื่องจากคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ถนนสาย สข.2004 งบฉุกเฉินทั้งหมดประมาณ 5 แสนบาท โดยได้ดำเนินการซ่อมไปทั้งหมด 5 จุด และยังมีส่วนที่ได้รับความเสียหายจากการถูกกัดเซาะอีกประมาณ 500 เมตร
นายสมชาย รัตนสมบูรณ์ ได้กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้เราได้สำรวจออกแบบเพื่อของบกลางมาใช้ฟื้นฟูในลักษณะการก่อสร้างจะเป็นแนวหินสร้างถาวรกว่างบฉุกเฉิน โดยครอบคลุมไปถึงอาคารบำบัดน้ำเสีย ของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติในครั้งนี้เช่นกัน
