พังงา - คลื่นลมแรงกัดเซาะเสาไฟฟ้าจุดขึ้นสายเคเบิลใต้น้ำเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 (ภาคใต้) จ.นครศรีธรรมราช เร่งดำเนินการแก้ปัญหา หวั่นไฟฟ้าดับทั้งเกาะ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีนักท่องเที่ยวพักผ่อนตามโรงแรมจำนวนมาก
วันนี้ (14 เม.ย.) หลังจากคลื่นลมแรงสูงกว่า 2 เมตร ซัดเข้าหาฝั่งกัดเซาะแนวชายหาดบริเวณหมู่ที่ 3 ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ส่งผลทำให้ต้นสน ต้นมะพร้าวจำนวนมากล้มลงในทะเลเป็นแนวยาว บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมชายหาดถูกคลื่นกัดเซาะเสาไฟฟ้า สายเคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมโยงลงใต้น้ำระหว่างบ้านน้ำเค็ม มายังเกาะคอเขา เพื่อนำกระแสไฟฟ้ามาใช้ในพื้นที่เกาะคอเขา ได้รับความเสียหายจนฐานปูน และสายเคเบิลโผ่ขึ้นมาจากพื้นทราย โดยถ้าเสาไฟฟ้าล้มก็จะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ต เพราะจะทำให้ไม่มีไฟฟ้าใช้ทั้งเกาะ ซึ่งประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยใน ต.เกาะคอเขา ขณะนี้ จำนวนกว่า 1,000 คน และมีโรงแรม รีสอร์ต จำนวน 11 แห่ง กว่า 600 ห้อง จะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอนช่วงเทศกาลสงกรานต์
นายพรเทพ เพชรมีศรี ผจก.ไฟฟ้าอำเภอตะกั่วป่า เปิดเผยว่า ขณะนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 (ภาคใต้) จ.นครศรีธรรมราช โดยกองบำรุงรักษาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดพังงา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอตะกั่วป่า และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอท้ายเหมือง ร่วมดำเนินการปรับปรุงเพิ่มความมั่นคงของฐานรากเสาไฟฟ้าจุดขึ้นสายเคเบิลใต้น้ำเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เตรียมความพร้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีนักท่องเที่ยวพักผ่อนตามโรงแรมจำนวนมาก สำหรับเกาะคอเขา เป็นเกาะเล็กๆ ในทะเลอันดามัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 250 ครัวเรือน ปริมาณการใช้ไฟฟ้าประมาณ 2 MW การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้จ่ายกระแสไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟฟ้าบนเกาะโดยผ่านสายเคเบิลใต้น้ำระบบ 33 เควี ระยะทางประมาณ 1 กม. โดยช่วงที่ผ่านมา เกาะคอเขาประสบปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง มีผลกระทบต่อความมั่นคงในการจ่ายกระแสไฟฟ้าบนเกาะ ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการปรับปรุงเพิ่มความมั่นคงในการจ่ายกระแสไฟฟ้าบริเวณที่มีการกัดเซาะมาอย่างต่อเนื่อง
การดำเนินการในครั้งนี้เป็นการเพิ่มความมั่นคงของฐานรากเสาไฟฟ้าจุดขึ้นสายเคเบิลใต้น้ำ ให้สามารถทนต่อการกัดเซาะของน้ำทะเลได้ โดยในระหว่างการปฏิบัติงานได้หยุดการจ่ายไฟผ่านสายเคเบิลใต้น้ำ และจ่ายไฟโดยเครื่องยนต์กำเนิดไฟฟ้า (Mobile Generator) ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าบนเกาะ เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้า และนักท่องเที่ยวร่วมเทศกาลสงกรานต์บนเกาะคอเขา ด้วยความมั่นใจ