ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต โชว์ผลงานรวบ 2 นักท่องเที่ยวชาวเบลารุส ใช้บัตรอิเล็คทรอนิกส์ปลอม จำนวน 8 ใบ ตระเวนกดเงินพื้นที่ภูเก็ต มูลค่าความเสียหายนับแสนบาท
เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.พีรยุทธ์ การะเจดีย์ พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ร.ต.ท.ปิยะวิทย์ สิทธิหล่อ รอง สว.สส.ตม.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนาย MIKALAI RAMANKOU อายุ 35 ปี สัญชาติเบลารุส และนาย SIARHEI BANDARKOU อายุ 35 ปี สัญชาติเบลารุส พร้อมด้วยของกลางบัตรอิเล็คทรอนิกส์ปลอม จำนวน 8 ใบ หนังสือเดินทาง (passport) ประเทศเบลารุส จำนวน 2 เล่ม โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถโรงแรมราไวย์ บีช และขยายผลไปตรวจค้นที่ห้องพักหมายเลข 1 และ 12 โรงแรมราไวย์ บีช ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พล.ต.ต.พชร กล่าวถึงการจับกุมครั้งนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้รับการประสานข้อมูลจากธนาคารไทยพาณิชย์ ว่า ในช่วงตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2557 ได้มีชาวต่างชาตินำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ไปตระเวนกดเงินตามที่ต่างๆ ซึ่งบัตรดังกล่าวเจ้าหน้าที่ของธนาคารฯ ตรวจพบว่า น่าจะเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
จากการทำการสืบสวนเจ้าหน้าที่พบว่า บุคคลที่นำเอาบัตรกลุ่มดังกล่าวมาตระเวนกดเอาเงินสดจากตู้เอทีเอ็มนั้น เป็นชายชาวต่างชาติ จำนวน 2 คน จึงได้สืบสวนติดตามจนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบติดตามพบว่า ชายทั้ง 2 คน ได้นำเอาบัตรอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นบัตรปลอม หรือบัตรของผู้อื่นไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด ที่บริเวณหาดราไวย์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบชายชาวต่างชาติที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับชายที่นำเอาบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เอทีเอ็ม) ไปกดเอาเงินสดตามที่ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ที่เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามอยู่
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปขอทำการตรวจสอบหนังสือเดินทาง ทราบชื่อคือ นาย MIKALAI RAMANKOU สัญชาติเบลารุส อายุ 35 ปี และนาย SIARHEI BANDARKOU สัญชาติเบลารุส อายุ 35 ปี พร้อมทั้งขอตรวจค้นตัว โดยแจ้งเหตุให้ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่สงสัยว่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุนำเอาบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ผลการตรวจค้นพบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมของกลาง และเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ รวมทั้งเอกสารการเดินทาง เอกสารการเข้าพัก จึงได้จับกุม และควบตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
จากการสอบถามผู้ต้องทั้ง 2 ราย ให้การในเบื้องต้นว่า บัตรทั้งหมดพบมาจากห้องน้ำ แล้วทดลองนำมากดดู แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องที่ 1 ได้เดินทางเข้าประเทศไทยมาแล้ว 2 ครั้ง ล่าสุด เข้ามาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2557 ทางสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้ว 4 ครั้ง ล่าสุด เดินทางเข้ามาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2557 ทางสนามบินสุวรรณภูมิ และจากการตรวจสอบกับทางธนาคารไทยพาณิชย์ พบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีการก่อเหตุในพื้นที่ กทม.มาก่อน โดยมูลค่าของความเสียหายในพื้นที่ กทม.ประมาณ 1,000,000 บาท ส่วนในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ประมาณ 100,000 บาท
ในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง แจ้งข้อกล่าวหามีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ชองผู้อื่นโดยมิชอบ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป