พังงา - ย้อนรอย 10 ปี สึนามิ ชาวบ้านบางรายยังไม่มั่นใจในระบบเตือนภัย ส่วนพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวฟื้นตัวแล้ว
วันนี้ (26 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เป็นเวลาผ่านมากว่า 10 ปี ทำให้ประชาชนในจังหวัดพังงา ได้รับความเสียหายทั้งชีวิต และทรัพย์สินเป็นจำนวนมากจนไม่อาจประเมินค่าได้ และจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ซึ่งมีทั้งประชาชนชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่า 4,000 ราย และมีผู้สูญหายมากกว่า 1,000 รายได้รับผลกระทบ
ช่วงที่ผ่านมา ทางรัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจนทำให้ประชาชน แหล่งท่องเที่ยวสามารถฟื้นตัวได้รวมเร็วขึ้น โดยทางหน่วยงานภาครัฐได้เข้ามาสร้างบ้านให้ประชาชนอยู่อาศัยได้ตามปกติ แม้ว่าเหตุการณ์ผ่านไปเลย 10 ปี ก็ยังมีสภาพความเสียหายของเหตุการณ์ในครั้งนั้น เนื่องจากเจ้าของโรงแรมบางแห่งต้องปล่อยทิ้งร้าง เนื่องจากไม่มีกำลังใจที่จะลงทุนทำต่อจากครอบครัวเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม พบว่ายังมีปัญหาในเรื่องของอาคารหลบภัยที่สร้างให้ชาวบ้านไว้ตามแนวชายหาดมูลค่ากว่า 5 ล้าน เฉพาะตัวอาคารแต่ไม่มีระบบไฟฟ้าให้กับชาวบ้านไว้ใช้ และบางแห่งถูกปล่อยทิ้งร้าง ส่วนเรื่องระบบสัญญาณเตือนภัยทั้ง 18 หอ ในจังหวัดพังงา บางแห่งกลับพบว่าสัญญาณส่งเสียงดังไม่ทั่วถึง เมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในแต่ละครั้ง
ในปีนี้กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับจังหวัดพังงา กำหนดจัดให้รำลึกเหตุการณ์ สึนามิ จะมีเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปร่วมงานด้วยตนเอง
นายมงคล มะลิวัลย์ อายุ 62 ปี ชาวบ้านบางขยะ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่สามารถลืมได้ พอถึงวันที่ 26 ธ.ค.ทุกปี จะนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นอยู่ตลอดเวลา เพราะตนเองต้องประสบกับปัญหาต้องสูญเสียคนอันเป็นที่รักในครอบครัวหลายคน เมื่อมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวก็ยังหวาดผวาว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าจะมีระบบสัญญาณเตือนภัยก็ตามแต่ก็ไม่ได้ทำให้ตนมีความเชื่อมั่นแต่อย่างใด
ทางด้าน นายสนทยา ตักกอ อายุ 49 ปี กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้หลายอย่างได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ความเจริญได้เข้ามาอย่างมาก ซึ่งในตอนนี้ชาวบ้านได้มีที่อยู่อาศัย และยังประกอบอาชีพทำประมง ธุรกิจท่องเที่ยว ส่วนเรื่องระบบเตือนภัยทุกวันที่ 1 และวันที่ 15 ของเดือนจะมีการเปิดเพลงชาติในหอเตือนภัยเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ชาวบ้าน โดยแผ่นดินไหวแต่ละครั้งเขาจะสามารถรู้ก่อนลวงหน้าจากระบบเตือนภัยอื่นๆ มากกว่าระบบเตือนภัยที่ติดตั้งไว้ในพื้นที่อีกด้วย