นราธิวาส - เรือบรรทุกสัญชาติอินโดฯ ลอยเกยติดโขดหิน ขณะนี้น้ำมันปาล์มดิบใต้ท้องเรือได้รั่วไหลลงทะเลอย่างต่อเนื่อง จนหาดนราทัศน์เต็มไปด้วยคราบน้ำมันสีเหลืองขุ่นเป็นทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร ด้านชาวบ้านทนไม่ไหวรวมตัวช่วยกันทำความสะอาดคราบน้ำมัน หวั่นกระทบระบบนิเวศ
วันนี้ (25 ธ.ค.) จากเหตุกรณีเรืออินโดนีเซียชื่อ SRICADI 151 ซึ่งเป็นเรือของกลางที่บรรทุกน้ำมันปาล์ม จำนวน 2,700,000 ลิตร ที่ถูกโจรสลัด 8 คน ได้ปล้นจากน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย มาจอดทอดสมอจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบในน่านน้ำนราธิวาส ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จับกุมเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 57 ที่ผ่านมา และได้ถูกคลื่นกระแสลมแรงพักเกยติ้นติดโขดหิน และทำให้เรืออับปาง ถูกคลื่นแรงสูงซัด เป็นเหตุให้บริเวณท้ายเรือแตกมีรอยรั่ว
ล่าสุด น้ำมันปาล์มดิบคงไหลทะลักอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้คราบน้ำมันบริเวณชายหาดทั้งตลอดชายฝั่งหาดนราทัศน์เต็มไปด้วยคราบน้ำมันลอยตัวสีเหลืองขุ่น ทั้งบนแนวชายหาด และในทะเล เป็นระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้ และกลุ่มชาวบ้านได้ช่วยกันเพื่อทำความสะอาด และปัดกวาดคราบน้ำมันใส่ถุงดำแต่ยังคงมีคราบน้ำมันจำนวนมากไหลทะลักออกมา เนื่องจากเรือถูกคลื่นซัดอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกองทัพเรือภาคที่ 2 และตำรวจน้ำนราธิวาส ได้ส่งเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำ เพื่อตรวจสอบรอยรั่วที่เป็นสาเหตุจะเรือรั่วจุดที่ให้น้ำมันปาล์มดิบรั่วไหล เบื้องต้นพบอยู่บริเวณใต้ท้องเรือ ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามจะปิด และอุดรอยรั่ว แต่ยังไม่สามารถทำได้เนื่องจากทัศนวิสัย และคลื่นในทะเลยังคงแรง
ด้าน นายโรสลี บือราเฮง อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นชาวประมงพื้นบ้าน ชุมชนชายทะเล ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส กล่าวว่า ตนเป็นอาสาฯ ที่ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เพื่อเก็บคราบน้ำมันที่อยู่บนชายหาดนราทัศน์ 2 วันแล้ว แต่คราบน้ำมากขึ้นทุกวัน ตลอดแนวหาดสกปรก น้ำทะเลเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน ตนอย่างขอร้องไปยังภาครัฐให้เร่งนำอุปกรณ์มาทำความสะอาดคราบน้ำมัน และแก้ปัญหาโดยเร็ว เพราะช่วงนี้คราบน้ำมันจำนวนมากสร้างผลกระทบต่อสถานที่ท่องเที่ยวหาดนราทัศน์ ทั้งบนหาด และในทะเล หากช้าไปกว่านี้จะมีผลกระทบต่อชาวประมง และสัตว์น้ำ ระบบสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน