กระบี่ - เจ้าอาวาสวัดดัง ต.ปลายพระยา บุกศูนย์จำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านในห้างดังที่ จ.กระบี่ ขอคืนกระเบื้องโมเสกหลากสีที่ทางวัดซื้อไปติดตั้งไม่นานกลับกลายเป็นสีดำคล้ำ แต่ทางห้างไม่สนใจ สุดทนขึ้นไปนั่งบนจุดวางสินค้า พร้อมใช้ไมโครโฟน และเครื่องขยายเสียงพกพาประกาศร้องขอความเป็นธรรม สุดท้ายทางห้างรับไปตรวจสอบ จะให้คำตอบอีกครั้งภายใน 14 วัน
เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (24 ธ.ค.) พระขจิต กมโล อายุ 55 ปี เจ้าอาวาสวัดถ้ำนาฬาคิริง ม.6 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ นำชาวบ้านประมาณ 100 คน หอบตัวอย่างกระเบื้องโมเสกสีต่างๆ จำนวน 2 รถเข็น รวมประมาณ 200 ชิ้น เดินทางไปที่ห้างโฮมโปร ศูนย์จำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านชื่อดัง ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของห้างบิ๊กซี สาขากระบี่ ม.11 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อที่จะนำกระเบื้องทั้งหมดไปคืนให้แก่ทางห้างดังกล่าวพร้อมขอเงินคืน โดยอ้างว่ากระเบื้องดังกล่าวเป็นกระเบื้องไม่มีคุณภาพติดไปได้ไม่นานก็กลายเป็นสีดำคล้ำ แต่การการเดินทางมาครั้งนี้ ไม่มีใครสามารถรับเรื่องของเจ้าอาวาสได้
ทำให้พระขจิต ต้องนำโมโครโฟน พร้อมเครื่องขยายเสียงพกพาเดินเข้าไปนั่งบนจุดที่วางกระเบื้องปูพื้นกลางห้าง พร้อมประกาศว่า ตนมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อห้างดังกล่าว หลังจากที่ซื้อสินค้าจากทางห้างแล้วไม่ได้คุณภาพ แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ และจะนั่งประท้วงต่อไปมีกำหนดเพื่อให้ญาติโยมได้รับทราบโดยทั่วกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อของมามุงดูกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่พนักงานรักษาความปลอดภัยก็พยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อให้พระขจิตหยุดประท้วง แต่ไม่สำเร็จ โดยพระขจิต ยืนยันว่าจะนั่งประท้วงต่อไปจนกว่าจะได้เงินคืน โดยมีลูกศิษย์ลูกหาที่มากับเจ้าอาวาสยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกเขตจำหน่ายสินค้า
อย่างไรก็ตาม หลังผ่านไปประมาณ 2 ชม. พ.ต.อ.ชิณรัตน์ ฤทธาคณานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดกระบี่ การค้าภายในจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ย พร้อมสอบถามถึงความเป็นมาของการประท้วงในครั้งนี้ ทำให้ทราบว่า เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พระขจิต ได้นำเงินของวัด และเงินบริจาคของญาติโยมมาซื้อกระเบื้องโมเสกหลากสี ราคาแผ่นละ 229 บาท จำนวนประมาณ 5,000 แผ่น และอุปกรณ์ต่างๆ จากห้างดังกล่าว รวมเป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท เพื่อเอาไปประดับโบสถ์รูปช้างที่สร้างขึ้นใหม่ภายในวัด
แต่ปรากฏว่า หลังติดตั้งได้ไม่ถึงเดือนก็สังเกตเห็นสีที่กระเบื้องรอบๆ โบสถ์ที่เคยส่องประกายแวววาวก็เริ่มกลายเป็นสีดำคล้ำ และลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ จึงคิดว่ากระเบื้องดังกล่าวน่าจะไม่มีคุณภาพจึงต้องการที่จะให้ทางห้างรับผิดชอบ โดยขอคืนสินค้าทั้งหมด และขอรับเงินคืน ประกอบกับเงินที่ซื้อเป็นเงินของวัด และที่ชาวบ้านบริจาคมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ด้าน น.ส.พนิตตา ตันติศรียานุรักษ์ ผู้จัดการคลังสินค้าห้างโฮมโปร สาขากระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่ากระเบื้องเสียหายจากอะไรสาเหตุใด และอะไรที่เป็นสาเหตุที่ทำให้กระเบื้องกลายป็นสีคล้ำ แต่ถ้าหากเกิดจากตัวสินค้าไม่มีคุณภาพทางห้างก็พร้อมจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ต้องขอเวลาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบก่อนว่าเกิดจากสาเหตุใด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ หรือ 14 วัน ก็จะทราบผล และจะให้คำตอบอีกครั้ง
จากนั้นทางพระขจิต ก็ประกาศว่า ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากทางห้าง ดังนั้น ตนก็จะกลับไปปิดป้ายประณามห้างดังกล่าวที่วัดเป็นเวลา 14 วันเช่นกัน จนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน หลังจากนั้นก็ได้นำชาวบ้านเดินทางกลับ