ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นักศึกษาดนตรีสากล มรภ.สงขลา ทำละครเวทีครั้งแรก ให้ชื่อสิ่งที่เหลืออยู่ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สะท้อนความรักอันยิ่งใหญ่ของพ่อที่มีต่อลูก
วันนี้ (18 ธ.ค.) นายสหภัส อักษรถึง อาจารย์ประจำโปรแกรมวิชาดนตรีสากล มรภ.สงขลา เปิดเผยถึงการทำละครเวที เรื่อง สิ่งที่เหลืออยู่ ว่า เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนในวิชาปฏิบัติรวมวงใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมานักศึกษาดนตรีสากลจะเน้นไปที่การเล่นดนตรี แกะเพลง แต่ในปีนี้ตนและนักศึกษาได้หารือร่วมกันว่าอยากทำละครเวทีเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ประกอบกับต้องการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ลองทำละครเวที ที่จะต้องมีทั้งการเล่นดนตรีสด และการแสดง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่ตนและนักศึกษาเชื่อว่าหากมีความตั้งใจจริงก็สามารถทำได้ และจะเป็นจุดเริ่มต้นในการปลูกฝังความรักและเทิดทูนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในขณะเดียวกันนักศึกษาโปรแกรมวิชาดนตรีสากล ก็ได้ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในการทำในสิ่งที่ต่างออกไป ถือเป็นสิ่งสำคัญในการต่อยอดการเรียนรู้
ด้าน นายดำรงพล เพ็งธรรม นักศึกษาปี 3 โปรแกรมวิชาดนตรีสากล มรภ.สงขลา กล่าวว่า ตนรับบทเป็นลุงศักดิ์ ซึ่งมีอาชีพเป็นคนกวาดถนน และรักอาชีพนี้มากๆ ลุงศุกดิ์จะคอยปัดกวาดถนนให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จประพาสผ่านถนนเส้นที่เขากวาด แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ทำด้วยหัวใจ เพราะพระองค์ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยและทรงลำบากเพื่อให้คนไทยได้มีชีวิตที่ดีขึ้น จึงอยากเทิดพระเกียรติพระองค์โดยทำละครเกี่ยวกับพ่อ รู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย เพราะพระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อย เพื่อให้ปวงชนชาวไทยทุกคนได้อยู่อย่างสุขสบาย
เพราะฉะนั้น สิ่งที่จะทำได้ในฐานะเยาวชนคือเป็นคนดี ช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนร่วมสังคม ตนเชื่อว่าเยาวชนทุกคนรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และอยากทำความดีเพื่อพระองค์ อยากฝากว่าเราทุกคนคืออนาคตของชาติ มาช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้นโดยการรักซึ่งกันและกัน ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ช่วยเหลือคนที่ลำบาก แค่นี้สังคมก็น่าอยู่มากขึ้นแล้ว
ขณะที่ นายภาณุพงศ์ พรหมอินทร์ นักศึกษาปี 3 โปรแกรมวิชาดนตรีสากล นักแสดงอีกคนหนึ่ง กล่าวด้วยว่า ตนรับบทเป็นนนท์ ลูกชายของลุงศักดิ์ เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ทะเยอทะยาน และรู้สึกอับอายที่มีพ่อเป็นเพียงคนกวาดถนน กว่านนท์จะรู้ว่าหัวใจรักของพ่อนั้นยิ่งใหญ่เพียงใดก็สายเกินไปแล้ว ซึ่งละครเรื่องนี้ให้แง่คิดที่ดีมากโดยเฉพาะในเรื่องการไม่ลืมรากเหง้าที่มาของตนเอง การทำละครเทิดพระเกียรติเป็นการแสดงออกถึงความรัก ความเทิดทูน และความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตนภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย ได้อยู่บนผืนแผ่นดินไทย ได้อยู่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงงานอย่างหนักเพื่อให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเสด็จไปทุกที่ไม่ว่าที่แห่งนั้นจะทุรกันดารเพียงใด นี่เป็นเพียงเหตุผลเล็กๆ ในหลากหลายร้อยพันเหตุผล ที่ตนและคนไทยรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตนรักพระองค์ด้วยเหตุผลมากมาย แต่เทียบไม่ได้เลยกับพระองค์ เพราะพระองค์ทรงรักคนไทยทุกคนโดยปราศจากเหตุผลใดๆ
“อยากฝากไปถึงเยาวชนในการทำความดีเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมคิดว่าแค่ทุกคนเป็นคนดี ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่สร้างภาระให้สังคม แค่นี้ก็เป็นการทำความดีเพื่อพระองค์แล้ว เพราะเยาวชนทุกคนคือกำลังของชาติ หากทุกคนเป็นคนดี คิดดี ทำดี ก็จะทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง สังคมดี ประเทศดี สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่พระองค์อยากเห็นมากที่สุด”