สุราษฎร์ธานี - กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เกือบ 100 คน รวมตัวปลูกพืชขมิ้นในพื้นที่สวนปาล์มหลังโค่นต้นยางพาราทิ้ง เพื่อหารายได้เสริมหลังราคายางพาราตกต่ำ ในขณะที่แกนนำ 35 องค์กร ระบุหากหลังปีใหม่ราคายางไม่ขยับเตรียมเคลื่อนไหว
สมาชิกกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราบ้านส้องพัฒนา อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกือบ 100 คน ได้รวมตัวกันปลูกพืชขมิ้น ในร่องแปลงสวนปาล์ม ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านส้อง จำนวน 27 ไร่ เพื่อเสริมสร้างรายได้แก่สมาชิกในกลุ่ม พร้อมเตรียมขายพื้นที่ปลูกเพิ่มในรายที่โค่นต้นยางทิ้ง
นายมนูญ อุปรา ประธานกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราบ้านส้องพัฒนา กล่าวว่า วันนี้นโยบายของรัฐบาลที่ให้โค่นต้นยางพาราที่อายุแก่แล้วทิ้ง แล้วสนับสนุนให้มาปลูกปาล์มแทน โดยรัฐบาลให้ สกย.สนับสนุนเงินทุนให้แก่เกษตรกรไร่ละ 26,000 บาท พื้นที่ในระหว่างร่องแถวปาล์มที่ยังว่างอยู่นั้นให้มาใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ โดยทำการปลูกพืชอื่นทดแทน ในระหว่างต้นปาล์มน้ำมันยังเล็กอยู่ เพื่อให้มีรายได้เสริมมาจุนเจือครอบครัวระหว่างปี โดยทางกลุ่มได้มีสมาชิกกว่า 6,000 คน มีการรวมตัวกันดำเนินการปลูกพืชขมิ้น ที่เห็นว่ามีราคาดี และมั่นคง โดยราคาในท้องตลาดอยู่ที่ 50-120 บาท ในบางโอกาส ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง หลังจากราคายางพาราตกต่ำเป็นประวัติการณ์
นายมนูญ ยังระบุว่า ขณะนี้ชาวสวนยางไม่คิดว่าสถานการณ์ราคายางจะตกต่ำถึงเพียงนี้ จึงทำให้เกษตรกรชาวสวนยางปรับตัวไม่ทัน จึงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก รายได้ไม่พอต่อรายจ่าย ดังนั้น เกษตรกรชาวสวนยางก็จะต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเอง และของชุมชนที่จะร่วมกันประคับประคองการดำรงชีพให้ผ่านพ้นไปได้ ในช่วงวิกฤตราคายางพาราตกต่ำ
ส่วนการเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือนั้น ครั้งแรกได้ตั้งเป้าไว้ที่กิโลกรัมละ 80 บาท แต่ราคาท้องตลาดอยู่ที่ 40 บาทต่อกิโลกรัม จึงคิดว่าราคาที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 60 บาท ประกอบกับรัฐบาลได้กล่าวไว้ว่า ราคา 80 บาทไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่รัฐจะทำให้ราคายางพาราในท้องตลาดขยับมาอยู่ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม จึงทำให้ชาวสวนมีความคาดหวังจากรัฐบาล หากหลังปีใหม่ไปแล้วราคายางยังไม่ขยับ แกนนำทั้ง 35 องค์กร ก็จะนัดประชุมเตรียมสรุปเคลื่อนไหวต่อไป