พังงา - ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ทำให้แรงงานต่างด้าวชาวพม่าที่รับจ้างกรีดยางในพื้นที่จังหวัดพังงา บางส่วนทยอยเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากรายได้ลดต่ำ วอนรัฐบาลแก้ปัญหาราคายางพาราให้อยู่ในกิโลกรัมละ 80 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากราคายางพาราตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกษตรชาวสวนยางพาราได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานรับจ้างกรีดยางพารา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานจากประเทศพม่า ที่มีรายได้ไม่คุ้มต่อค่าแรงที่ได้รับส่วนแบ่งจากนายจ้างอยู่ที่ประมาณ 40-60% จนทำให้รายได้ลดต่ำ ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ และไม่มีเงินเหลือพอเลี้ยงครอบครัว จนแรงงานต่างด้าวชาวพม่าที่รับจ้างกรีดยางบางส่วนทยอยเดินทางกลับประเทศ และออกไปรับจ้างทำงานการก่อสร้าง ซึ่งได้รับค่าแรงวันละ 300-400 บาท สูงกว่ารับจ้างกรีดยางมากทำให้แรงงานรับจ้างกรีดยางเริ่มขาดแคลน
นายจิรัญ เอี่ยวเจริญ เจ้าของสวนยางพารา กล่าวว่า เศรษฐกิจตอนนี้มีผลกระทบต่อชาวสวนยางเป็นอย่างมากจากราคายางตกต่ำ โดยปกติแล้วชาวสวนยางที่เป็นเจ้าของสวน ในจำนวนไม่เกิน 5 ไร่ ก็ยังพออยู่ได้กับราคายางในตอนนี้ แต่ถ้าเจ้าของสวนยางที่มีมากกว่า 5 ไร่ และมีลูกจ้างที่เป็นชาวต่างชาติที่มารับจ้างกรีดยางได้รับผลกระทบเนื่องจากขาดรายได้จากสวนยางที่เคยเป็นรายได้หลัก ในขณะที่เจ้าของสวนยางส่วนใหญ่ก็ไม่เคยลงมือกรีดยางเอง ทำให้ขณะนี้สวนยางพาราหลายแห่งถูกปล่อยทิ้งร้างไม่มีการกรีดยาง
ทั้งนี้ เกษตรกรชาวสวนยางขอให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งรัดช่วยเหลือเรื่องของราคา เพราะจะทำให้การช่วยเหลือนั้นตรงจุด และถึงมือชาวสวนยางมากกว่าการช่วยเหลือด้วยแนวทางอื่นๆ ที่แม้จะใช้เม็ดเงินสูงมาก แต่กลับไม่ถึงมือเกษตรกรมากนัก บางแห่งลูกจ้างก็จะหยุดการทำงานแล้ว
ตนเองมองว่าวิธีการแก้ปัญหาในเบื้องต้นคือ ในช่วงที่ไม่สามารถกรีดยางได้ เช่น ช่วงหน้าฝน เจ้าของสวนก็จะให้ลูกจ้างไปรับจ้างทำงานอย่างอื่นแทน เช่น ไปรับจ้างเป็นกรรมกรก่อสร้าง หรือไปเป็นชาวประมงออกเรือไปจับปลา เป็นต้น หากฝนไม่ตก หรือว่าราคายางไม่ตกต่ำจนเกินไปก็ไม่มีผลกระทบต่อเจ้าของสวนยาง จึงอยากฝากไปถึงรัฐบาลให้เร่งช่วยเหลือชาวสวนยางให้มีราคาที่สูงขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดีเลี้ยงครอบครัวได้ ส่วนราคาที่น่าจะทำให้เจ้าของสวนยางพอใจน่าจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท ก็พออยู่ได้แล้ว ซึงปัจจุบันราคายางตกต่ำก็ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของพี่น้องประชาชนที่น้อยลง
