สุราษฎร์ธานี - ตัวแทนชาวสวนยาง 36 องค์กร ยื่นหนังสือจังหวัดทหารบก ขอราคายาง กก.60 บาท ส่วนต่างรัฐชดเชย พร้อมเรียกร้องรัฐเร่งดำเนินการตามที่รับปากไว้
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายมนูญ อุปลา ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพาราสุราษฎร์ธานี พร้อมตัวแทนองค์กรชาวสวนยางจาก 36 องค์กร จำนวนหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทางนายอวยชัย อินทร์นาค รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี และ พ.อ.ทวี เกิดสมบูรณ์ รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบก จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวสวนยาง
โดยมีข้อเสนอ 3 ข้อ คือ 1.ให้รัฐชดเชยราคายางพาราให้แก่ผู้ประกอบการยางพาราที่มีอยู่ในประเทศไทย จากส่วนต่างราคาตามกลไกตลาดให้ได้ราคากิโลกรัมละ 60 บาท ตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ 2.ขอให้รัฐดำเนินการโดยทันที โดยใช้งบกลางของรัฐบาล และ 3.ให้สถานบันเกษตรกรเป็นผู้รวบรวมยางพาราจากเกษตรกรชาวสวนยาง แล้วขายส่งให้แก่ผู้ประกอบการยางพาราในแต่ละพื้นที่ หากราคายางพาราเพิ่มขึ้นจะทำให้รัฐใช้งบประมาณในการชดเชยส่วนต่างราคายางน้อยลง และถ้าราคายางขยับขึ้นไปถึง 60 บาทต่อกิโลกรัม รัฐก็ไม่ต้องชดเชยให้แก่ผู้ประกอบการอีกต่อไป
โดยนายอวยชัย อินทร์นาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัด เข้ารับหนังสือจากตัวแทนเกษตรกร และรับปากเร่งดำเนินการส่งหนังสือต่อไปให้ถึงนายกรัฐมนตรีให้เร็วที่สุด เข้าใจดีถึงปัญหาของเกษตรกรชาวสวนยาง เพราะตนเองก็มาจากครอบครัวชาวสวนยาง
หลังจากนั้น ตัวแทนเกษตรกรได้แยกย้ายกันกลับเพื่อรอฟังคำตอบ และแนวทางช่วยเหลือจากรัฐบาลต่อไป ขณะที่ นายมนูญ อุปลา ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพาราสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ราคาที่เกษตรกรต้องการคือ 80 บาทต่อกิโลกรัม แต่ราคายางวันนี้อยู่ที่ 40 กว่าบาท และราคาที่รัฐบาลประกาศรับปากไว้ ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม ถือว่าพบกันครึ่งทาง ในส่วนของสถาบันเกษตรกรที่กู้เงินจากโครงการสนับสนุนสินเชื่อของรัฐบาลในอัตราดอกเบี้ย 1% นั้น ต่างประสบภาวะขาดทุน เนื่องจากขณะที่ได้รับเงินมา และเริ่มซื้อยางจากเกษตรกรราคายางสูงกว่าทุกวันนี้เมื่อราคายางตกลงมาอีก จึงทำให้เกิดภาวะขาดทุน
โดยสหกรณ์การเกษตรเวียงสระ ซึ่งตนเป็นประธานอยู่ ขณะนี้ขาดทุนแล้วกว่า 2,000,000 บาท มียางอยู่ในสต๊อกประมาณ 200,000 กิโลกรัม ทั้งนี้ ทางสหกรณ์จำเป็นต้องขายยางบางส่วนในราคาที่ขาดทุน เนื่องจากการเก็บยางไว้นานเกินไปทำให้ยางเสื่อมสภาพ และหากยังประสบภาวะขาดทุนต่อไปอีก สถาบันเกษตรกรจะไม่มีเงินไปชำระดอกเบี้ย และเงินต้นที่กู้มาจากรัฐบาลตามเวลาที่กำหนด
