กระบี่ - กรมศิลป์อบรมอาสาสมัครเฝ้าระวังมรดกทางศิลปวัฒนธรรมล้ำค่าถูกทำลาย เผยในพื้นที่จังหวัดกระบี่ พบมรดกทรงคุณค่าหลายพื้นที่
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่โรงแรมคริสตัล อ.เมือง จ.กระบี่ นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในการเปิดโครงการอบรมจัดตั้งอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม (อส.มส.) ระหว่างวันที่ 16-18 ธ.ค.57 โดยมีอาสาสมัครจากอำเภอต่างๆ เข้าร่วมการอบรมจำนวนกว่า 40 คน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ ส่งเสริมประชาชนได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ดูแลมรดกทางวัฒนธรรม แหล่งโบราณสถานในท้องถิ่นไม่ให้ถูกทำลาย เช่น วัดเก่าแก่ หรือวัตถุโบราณต่างๆ เพื่ออนุรักษ์ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ และเป็นแหล่งท่องเที่ยว
นางเรียม พุ่มพงศ์แพทย์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ มีแหล่งโบราณสถาน และโบราณวัตถุทรงคุณค่ามากมาย และยังมีที่มีการค้นพบใหม่ๆ หลายแห่ง เช่น ที่อำเภอเมือง และอำเภออ่าวลึก ควรที่จะต้องได้รับการดูแลเพื่อป้องกันการถูกทำลายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาสาสมัครเหล่านี้จะมีความรู้ สามารถช่วยสอดส่องดูแล และแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้รับทราบ เพื่อป้องกันมิให้มรดกทางวัฒนธรรม วัตถุโบราณที่มีอยู่ในพื้นที่ถูกทำลายเพื่อคนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป
ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่15 ภูเก็ต เปิดเผยถึงกรณีที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ พบการทำลายภาพเขียนสีโบราณ อายุ 3-5 พันปี ที่บริเวณถ้ำมโนราห์ ม.2 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเป็นการทำลายทรัพย์สมบัติของชาติที่ควรที่จะอนุรักษ์ไว้ศึกษา ซึ่งที่ผ่านมา บริเวณถ้ำมโนราห์ ทางเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต ได้พยายามที่จะเข้าไปสำรวจอยู่หลายครั้ง แต่ทางบริษัทที่ได้ประทานบัตร เหมืองแร่หินอุตสาหกรรม ชนิดหินปูนเพื่อการก่อสร้างไม่อนุญาตเข้าสำรวจ และมีการทำหนังสือคัดค้าน จึงต้องเลี่ยงไปขึ้นทางด้านหลังแทน
อย่างไรก็ตาม หลังจากพบว่ามีการทำลายภาพเขียนสีโบราณภายในถ้ำมโนราห์ ทางสำนักศิลปากรที่15 ภูเก็ต สามรถที่จะเข้าไปสำรวจได้ โดยร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อมีการพบโบราณวัตถุระหว่างดำเนินการ ทางผู้รับสัมปทานก็จะต้องถูกระงับประทานบัตรโดยทันที โดยในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ ทางสำนักศิลปากรฯ พร้อมด้วยอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบ และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดการทำลาย ซึ่งตนมองว่าวัตถุโบราณเป็นทรัพย์สินที่ประเมินค่ามิได้ เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากเมื่อมีคนมาทำลาย พร้อมเตรียมเสนอให้มีการยุติการให้สัมปทานบัตรต่อไป