กระบี่ - ชาวตำบลบ้านกลาง ร้องพบภาพเขียนสีโบราณที่ถ้ำโนราห์ ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ถูกมือดีลักลอบขูดออก จำนวน 3 ภาพ อายุ 3,000-5,000 ปี เผยทางกรมศิลปากร อยู่ระหว่างการสำรวจเตรียมขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งโบราณคดีที่มีสภาพเป็นโบราณสถาน เชื่อเป็นการจงใจทำลาย เบื้องต้นได้แจ้งสำนักศิลปากร แจ้งความดำเนินคดี
วันนี้ (12 ธ.ค.) นายนิวัฒน์ วัฒนยมนาพร ที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ นายเกรียงไกร ขวัญเดือน สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตำบลบ้านกลาง พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่กว่า 20 คน ได้เดินทางเข้าไปสำรวจภาพเขียนสีโบราณ ภายในถ้ำโนราห์ ม.2 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่า ภาพเขียนสีโบราณภายในถ้ำถูกลบออกจำนวนหลายภาพ ซึ่งจากการสำรวจในเบื้องต้นพบว่า ภาพเขียนสีที่ถูกทำลายอยู่บริเวณผนังถ้ำมีร่องรอยขูดออกไป จำนวน 3 ภาพ โดยมีภาพสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ของถ้ำ ซึ่งเป็นรูปคล้ายคนยืนรวมอยู่ด้วย และมีรูปทรงเรขาคณิตอีก 2 ภาพ ซึ่งทางสำนักศิลปากรที่15 ภูเก็ต ได้เข้ามาสำรวจ และยืนยันเป็นภาพเขียนสีโบราณ อายุราว 3,000-5,000 ปี ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจเป็นอย่างมาก เชื่อว่าเป็นการจงใจทำลาย
นายเกรียงไกร กล่าวว่า เมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา ขณะที่ชาวบ้านได้เข้าไปหาเห็ดในป่าบริเวณใกล้ถ้ำมโนราห์ และได้เข้าไปหลบฝนภายในถ้ำ ก็พบว่า ภาพเขียนสีที่เคยมีสภาพสมบูรณ์มีร่องรอยถูกขูดออกไป จำนวน 3 ภาพ จึงได้เข้ามาตรวจสอบ และเชื่อว่าเป็นผู้ไม่หวังดี เจตนาขูดเพื่อทำลายภาพเขียนสีอย่างแน่นอน เพราะเมื่อประมาณปี 2555 มีบริษัทเอกชนได้มาสัมปทานเหมืองหินเพื่อทำอุตสาหกรรมบริเวณดังกล่าว แต่ชาวบ้านในพื้นที่คัดค้านมาโดยตลอด เนื่องจากเห็นว่าเป็นแหล่งต้นน้ำ และจะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ และมีการปลอมแปลงเอกสารบัตรประชาชนชาวบ้านในการทำประชาพิจารณ์ด้วย
ด้านนายนิวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อประมาณ ต้นปี 56 ทางผู้เชี่ยวชาญด้านภาพเขียนสีโบราณ ของกรมศิลปากรได้มีการเข้ามาสำรวจภาพเขียนสีดังกล่าวแล้ว และยืนยันว่า เป็นแหล่งโบราณคดีที่มีสภาพเป็นโบราณสถาน และได้เข้ามารังวัดแนวเขตเพื่อเตรียมข้อมูลเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งโบราณ โดยมีการพบภาพเขียนสีโบราณภายในถ้ำ จำนวนกว่า 10 ภาพ อายุราว 3,000-5,000 ปี และยังมีการพบภาชนะดินเผา และชิ้นสวนกระดูกจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งควรที่จะอนุรักษ์ไว้ศึกษา อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งให้ทางสำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต เขามาตรวจสอบ และแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และสืบหาตัวคนที่ทำลายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเป็นการจงใจทำลาย