ชุมชนเกาะกลาง ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ เป็นเกาะเล็กๆ ที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์วิถีชีวิตชุมชนที่เรียบง่าย และยังคงรักษาเอกลักษณ์ท้องถิ่นไว้อย่างดี โดยเกาะแห่งนี้ตั้งอยู่กลางแม่น้ำกระบี่ ห้อมล้อมไปด้วยป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ การเดินทางอาศัยเรือหางยาว หรือเรือหัวโทง ข้ามฟากจากตัวเมืองกระบี่ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ชุมชนแห่งนี้ประกอบไปด้วย 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านเกาะกลาง บ้านคลองประสงค์ และบ้านคลองกำ มีประชากรราว 5,000 คน ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มีการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ประมง และรับจ้างทั่วไป
ความโดดเด่นของชุมชนเกาะกลาง คือ ภูมิปัญญา และวิถีชีวิตชุมชนที่พึ่งพาอาศัย และผูกพันสอดคล้องระหว่างคนในชุมชนกับทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่ ผ่านกิจกรรมที่นักท่องเที่ยว และผู้ที่มาเยือนสามารถเรียนรู้และมีส่วนร่วมได้ เช่น การทำประมงพื้นบ้าน การสักหอย การทำนาข้าว การทำเรือหัวโทงจำลอง การทำผ้าปาเต๊ะ นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้ชุมชนเกาะกลางยังคงความสวยงาม และมีเสน่ห์ก็คือ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชุมชนมุสลิมที่รักสันติ สงบ และเรียบง่าย มิตรภาพและน้ำใจไมตรีของคนเกาะกลาง คือส่วนหนึ่งของความสุขที่ถ่ายทอดออกมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ ที่นี่ยังคงก้าวไปตามจังหวะในแบบฉบับของชุมชนเอง ความสุขที่เรียบง่ายจากการเดินทางท่องเที่ยวอาจหาได้ไม่ยาก
นางวิยะดา ศรีรางกูล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ จะนึกถึงแต่ทะเลสีฟ้าคราม สวยสดใส แต่ไม่รู้ว่าจังหวัดกระบี่ ยังมีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจชวนให้สัมผัส โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยววิถีชีวิตชุมชน ซึ่งมีความน่าประทับใจมากหากว่าได้ไปสัมผัส เรียนรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับชาวบ้านซึ่งมีหลายพื้นที่ แต่ที่อยากจะแนะนำ และเป็นไฮไลต์ที่สุดของการท่องเที่ยวชุมชนของจังหวัดกระบี่ ก็คือ ชุมชนเกาะกลาง ซึ่งสามารถข้ามฝั่งด้วยเรือหัวโทงโดยสาร เดินทางจากตัวเมืองกระบี่ ไปเพียงแค่ประมาณไม่เกิน 5 นาที ก็จะได้เห็นกับวิถีชีวิตที่แตกต่างจากสังคมเมืองอย่างสิ้นเชิง
ทำให้รู้ว่าเมื่อสมัยก่อนชาวบ้านอยู่ได้โดยอาศัยธรรมชาติ อาศัยวิถีชีวิตพอเพียง อยู่ได้อย่างยั่งยืน และมีความสุข สามารถทำมาหากินได้ทุกวัน มีอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ โดยที่ไม่ต้องซื้อ ส่วนที่เหลือก็นำมาแบ่งขายได้ ซึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อเราเดินทางเข้าไปสัมผัสก้าวย่างแรกก็คือกลิ่นอายของวิถีชีวิตชุมชนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งทะเล และการรวมกลุ่มกันของชาวบ้านในการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งกลุ่มผลิตเรือหัวโทงจำลอง กลุ่มชาวนา กลุ่มผ้าปาเต๊ะ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มชาวบ้านได้อย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มชาวนา ที่ปลูกข้าวสังข์หยด โดยจะมีการปลูกในวันแม่ และเก็บเกี่ยวในวันพ่อ ด้วยพื้นที่ที่จำกัดแค่เพียง 700 ไร่ แต่ก็สามารถทำรายได้อย่างดี
ที่สำคัญข้างสังข์หยดบ้านเกาะกลาง เป็นที่เลื่องลือของความอร่อย คนที่ต้องการซื้อก็จะต้องมีการสั่งจองตั้งแต่ยังไม่ทำการเก็บเกี่ยว หรือบางรายมีการจองแบบข้ามปีก็มี โดยราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ซึ่งจะเห็นได้ว่า เมื่อมีการท่องเที่ยวเข้าไปก็จะเข้าไปช่วยเกื้อหนุนให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวชุมชนเกาะกลาง ก็จะได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่แท้จริง จึงอยากจะให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเห็นได้สัมผัส แล้วจะประทับใจ และมีความสุข และต้องบอกว่า แม้แต่คนกระบี่เองบางคนก็ยังไม่เคยได้สัมผัส และเห็นวิถีชีวิตชุมชนที่แท้จริงของชุมชนเกาะกลาง
นอกจากนี้ การประกอบอาชีพของคนในชุมชนเองที่เป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวเกาะกลาง ก็คือการประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง ที่สืบทอดองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น ทั้งการวางอวนปลา อวนกุ้ง การทำโป๊ะน้ำตื้น การวางลอบปู การสักหอย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะมาเรียนรู้วีทำประมงร่วมกับชาวบ้านได้ ถึงแม้ว่าชุมชนเกาะกลาง จะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกระบี่มีเพียงแม่น้ำกระบี่กั้นกลาง แต่ความแตกต่าง และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่วุ่นวาย เงียบสงบ มิตรไมตรี และรอยยิ้ม
เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่มาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศเมื่อได้สัมผัสก็จะหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของชุมชนเกาะกลางอย่างแน่นอน สำหรับที่พักมีทั้งแบบโฮมสเตย์ กินอยู่กับชาวบ้าน และแบบเป็นส่วนตัว นอกจากนั้น ก็ยังมีที่พักแบบหรูหราให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักตามใจชอบ สำหรับชุมชนเกาะกลาง จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ชาวกระบี่ต้องการมอบให้แก่นักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมาเที่ยวชุมชนเกาะกลาง สามารถเดินทางโดยนั่งเรือหางยาวข้ามฟากจากฝั่งตัวเมืองกระบี่ มายังชุมชนเกาะกลาง ใช้บริการเรือข้ามฟากได้ 2 ท่าเรือ คือ ท่าเรือสวนสาธารณะธารา ไปยังท่าเรือท่าเล ใช้เวลา 5 นาที และท่าเรือเจ้าฟ้า ไปยังท่าเรือท่าหิน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
สำหรับข้อต้องห้ามแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปท่องเที่ยวชุมชนเกาะกลางจะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด มีอยู่ 5 ส. คือ สุราและสิ่งเสพติด สุกร สุนัข สายเดี่ยว และห้ามแสดงพฤติกรรมเชิงชู้สาว หรืออนาจารในที่สาธารณะ ส่วนการเดินทางมีเรือโดยสารให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึง 3 ทุ่ม และมนต์เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเกาะกลาง ก็คือ ไม่มีรถยนต์ทั้งโดยสาร และส่วนตัว มีเพียงรถจักรยาน และจักรยานยนต์เท่านั้น เมื่อข้ามไปยังชุมชนเกาะกลางแล้ว ก็สามารถเรียกใช้บริการรถสามล้อ หรือเช่ารถจักรยานได้ที่บริเวณท่าเรือท่าเล เพื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยว และจุดต่างๆ ซึ่งมีระยะทางรอบเกาะประมาณ 11 กิโลเมตร ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานกระบี่ 0-7562-2163