ยะลา - กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา หลังมีการบิดเบือนข้อมูลสร้างความสับสนในพื้นที่
วันนี้ (7 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่หมู่ที่ 3 อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน หลบหนีไปได้ 1 คน
พร้อมตรวจยึดของกลางได้หลายรายการ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ภายหลังจากการปฏิบัติได้มีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มว่า เจ้าหน้าที่ได้กระทำเกินกว่าเหตุ กล่าวคือ ได้ทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สิน และกวาดต้อนเด็กและผู้หญิงไปรวมไว้ที่มัสยิดโดยไม่ได้รับประทานอาหาร ถือเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำลายบรรยายกาศการพูดคุยเพื่อสันติสุขนั้น
“จากกรณีดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงว่า การติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงเป็นไปตามรายงานด้านการข่าวว่ามีผู้ก่อเหตุรุนแรงกรณีลอบยิงและลอบวางระเบิดเทศบาลตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา เข้ามาหลบซ่อนพักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าว จึงได้สนธิกำลังเข้าไปติดตามจับกุม โดยประสานผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนาทราบ
ในขณะปฏิบัติหน้าที่ ผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หลบซ่อนในบ้านหลังดังกล่าวได้ใช้อาวุธยิงใส่เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย พร้อมกับได้วิ่งหลบหนีไปตามบ้านต่างๆ ในหมู่บ้านดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดติดตามจับกุมมีความจำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์เนื่องจากเป็นเหตุการณ์เร่งด่วนเฉพาะหน้า เพื่อป้องกันอันตรายให้พี่น้องประชาชน เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธ ทั้งนี้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนาได้ชี้แจง และนำเด็กและผู้หญิงที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยในมัสยิด โดยเจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวก และจัดอาหารพร้อมน้ำดื่มคอยให้บริการสำหรับผู้ชาย จำเป็นต้องแยกไว้ตรวจสอบ เนื่องจากอยู่ใกล้เคียงสถานที่เกิดเหตุ และภายหลังได้ปล่อยตัวโดยไม่มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ในส่วนของผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 3 คน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบสวน พร้อมกับรวบรวมวัตถุพยานต่างๆ ตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายต่อไป” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า ในการปฏิบัติดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ได้สั่งการให้หน่วยใช้ความระมัดระวังในการเข้าติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงโดยคำนึงถึงหลักกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด และให้ประสานผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนาทราบ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีนำไปบิดเบือนข้อเท็จจริง นอกจากนี้ ให้ใช้การปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก ใช้อาวุธเท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น และไม่ให้ส่งผลกระทบ และเกิดอันตรายต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งไม่เป็นไปตามคำกล่าวอ้างแต่อย่างใด
ดังนั้น การออกมาเคลื่อนไหวของบุคคล หรือองค์กรเครือข่ายต่างๆ จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงโดยไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง หรือบิดเบือนเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่รัฐ และสร้างความหวาดระแวงต่อกันในสังคมดังเช่นพฤติกรรมที่เคยปฏิบัติมาทุกๆ ครั้ง เพราะเป็นการทำลายความหวัง และความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ต้องการให้เกิดสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้