ตรัง - ผู้ปกครองชั้น ม.6 โวยฝ่ายปกครอง ร.ร.ชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เนื่องจากขู่ไล่เด็กออก หลังโพสต์ลงเฟซบุ๊กไม่เห็นด้วยกรณีโค่นต้นไม้ที่มีอายุหลายสิบปี ด้าน ผอ.ชี้แจงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ย้ำทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส มีเหตุผล เนื่องจากรากของต้นไม้ดังกล่าวทำท่อน้ำประปาแตกทำให้ต้องเสียค่าซ่อมบำรุงไปแล้วหลายครั้ง
วันนี้ (26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.วังวิเศษ จ.ตรัง โดยระบุว่า ผู้บริหารโรงเรียนมีการตัดต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุหลายสิบปีจำนวนมาก และมีการใช้เงินจำนวนกว่า 600,000 บาท เพื่อปลูกใหม่ทดแทน ส่งผลให้นักเรียนชั้น ม.6 จำนวนหลายคนไม่เห็นด้วยต่อกระกระทำดังกล่าว และมีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกฎระเบียบที่เข้มงวดของโรงเรียน รวมทั้งแสดงความเห็นเกี่ยวกับการตัดตัดไม้ดังกล่าวด้วย
ด้าน นายสัมพันธ์ ครชาตรี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 311 ม.12 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งนี้ กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องฝ่ายปกครองของโรงเรียนดังกล่าวก็มีการเรียกนักเรียนที่มีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ไปว่ากล่าวตักเตือน และคาดโทษ พร้อมกับขอให้หยุดการโพสต์ข้อความที่ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง หากมิเช่นนั้นจะดำเนินการไล่ออกจากโรงเรียน รวมทั้งหมด 7 คน และยังมีการเชิญผู้ปกครองให้ไปพบที่โรงเรียนด้วย
นายสัมพันธ์ กล่าวอีกว่า เมื่อตนได้รับการบอกเล่าเรื่องนี้ก็รู้สึกตกใจ และคิดว่าโรงเรียนทำเกินกว่าเหตุ อีกทั้งลูกสาวตนก็กำลังเรียนชั้น ม.6 และกำลังจะจบการศึกษา ตลอดจนเป็นเด็กเรียนดี อยู่ห้องพิเศษ เคยทำคุณงามความดี และสร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนมากมาย แต่หากต้องออกจากการเรียนด้วยเหตุผลเพียงแค่นี้ตนก็คงยอมไม่ได้ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความกังวลให้แก่ทุกคนในครอบครัว และรู้สึกร้อนใจ จึงได้มีการติดต่อขอพบฝ่ายปกครองก่อนเวลานัดหมาย เพื่อขอทราบเหตุผลจากทางโรงเรียน
ทั้งนี้ หลังได้รับการร้องเรียนดังกล่าว ผู้สื่อข่าวก็เดินทางไปที่โรงเรียนแห่งนี้ เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับผู้ปกครองจำนวนหนึ่ง โดย นายชอบ มุกดา ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้ ชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด ระหว่างครูบางคนกับนักเรียน พร้อมยืนยันว่า โรงเรียนไม่มีนโยบายไล่เด็กออกด้วยเหตุผลแค่นั้น เพราะตนมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการที่จะพัฒนาโรงเรียนแห่งนี้ให้มีคุณภาพทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา คุณภาพการเรียนการสอน และภูมิทัศน์
สำหรับการตัดต้นไม้นั้น นายชอบ ชี้แจงว่า มีทั้งหมด 4 ต้น และมีอายุหลายสิบปีจริง แต่จำเป็นต้องดำเนินการเนื่องจากต้นไม้เหล่านี้ใหญ่โตมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีผลกระทบต่อบ้านพักของครู และรากยังชอนไชเข้าไปใต้พื้นดินจนทำให้ท่อประปาแตกอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้โรงเรียนต้องจ่ายค่าน้ำประปาเดือนละไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท มานานหลายเดือนแล้ว ประกอบกับต้นไม้บางต้น ก็มีกิ่งก้านแผ่ออกไปกว้างขวาง จนเกรงจะไปล้มทับใส่บ้านเรือนของชาวบ้านใกล้เคียงทำให้เกิดอันตราย จึงจำเป็นต้องตัดต้นไม้ดังกล่าว
ส่วนงบประมาณจำนวนกว่า 600,000 บาท ที่นำมาใช้ดำเนินการนั้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การสร้างระบบประปาใหม่ทั้งโรงเรียน และการจัดซื้อต้นไม้มาปรับภูมิทัศน์ในโรงเรียนเพิ่ม ตามโครงการคุณธรรมสวยด้วยมือเรา ที่เน้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการดูแล รู้จักรัก และหวงแหนต้นไม้ ซึ่งบรรจุอยู่ในแผนการสอน อีกทั้งการใช้งบประมาณดังกล่าวยังได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา และคณะกรรมโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นเงินสะสม และไม่เกี่ยวข้องกับเงินงบประมาณแต่อย่างใด
ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้ยังยืนยันอีกว่า จะไม่มีการไล่เด็กออกด้วยเหตุเพียงแค่นั้น และหากจะมีการไล่ออกก็ต้องเป็นข้อหาที่ร้ายแรง เช่น ทำร้ายร่างกาย ยาเสพติด พร้อมระบุว่าการไล่ออกจะถือเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะโรงเรียนมีวิธีการอีกมากมายที่จะให้เด็กที่กระทำผิดปรับตัว หรือปรับพฤติกรรม แต่ทุกสิ่งทั้งหมดทำไปด้วยสำนึกของความเป็นครู และความรักที่มีต่อศิษย์ อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายปกครองมีการสื่อสารที่รุนแรง หรือใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม ตนก็จะมีการตักเตือน แนะนำในฐานะผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชาต่อไป ทั้งนี้ หลังจากได้รับการชี้แจงจากทางผู้อำนวยการโรงเรียน ก็สร้างความพอใจให้แก่ผู้ปกครอง ก่อนจะเดินทางกลับไปในที่สุด