ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โดนอีกรอบ ผู้ประกอบการร่ม เตียงในพื้นที่ ต.กะรน เข้าพบตำรวจให้ปากคำ หลังถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกหมายเรียกข้อหาบุกรุกชายหาด คราวนี้โดนยกเซต 114 คน ด้านผู้ประกอบการย้ำให้การปฏิเสธเพราะไม่บุกรุกแต่เข้าประกอบอาชีพตามนโยบายจัดระเบียบชายหาดของจังหวัด
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีผู้ประกอบการชมรมร่ม เตียงชายหาด ตำบลกะรน จำนวน 18 คน ซึ่งถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน สภ.กะรน ในข้อหาบุกรุกที่ดินอันเป็นสาธารณะสมบัติแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนำโดย นายสุนันท์ บุญวัฒน์ ประธานกลุ่มร่มเตียงชายหาดตำบลกะรน นายกอบกู้ พัฒกอ สมาชิกชมรมฯ พร้อมชาวบ้านและผู้ประกอบการร่มเตียง อีกประมาณ 50 คน ร่วมเดินทางมาร่วมให้กำลังใจ
นายสุนันท์ บุญวัฒน์ ประธานกลุ่มร่มเตียงชายหาดตำบลกะรน กล่าวถึงการเดินทางมารายงานตัวของผู้ประกอบการร่มเตียงในพื้นที่กะรน ครั้งนี้ ว่า เนื่องจากผู้ประกอบการร่มเตียงในพื้นที่ ต.กะรน จำนวน 114 คน ถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกหมายเรียกให้มารายงานตัวในข้อหาบุกรุกชายหาด แต่ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกมาสอบปากคำ จำนวน 18 ราย ส่วนที่เหลืออีก 96 ราย จะทยอยเดินทางมาให้ปากคำ ซึ่งขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนัดมาให้ปากคำเมื่อไหร่ และในส่วนของการเดินทางมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ ผู้ประกอบการทุกคนให้การปฏิเสธในข้อกล่าวหาดังกล่าว เพราะทุกคนไม่ได้ผิด
นายสุนันท์ กล่าวต่ออีกว่า ตนเอง และผู้ประกอบการคนอื่นๆ ได้เข้าไปทำอาชีพร่มเตียงบนหาดกะรน มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 โดยทางราชการจัดระเบียบให้เข้าไปทำกินบนชายหาดสมัย นายอำเภอเนิน ศึกขันเงิน ซึ่งทางราชการได้ดำเนินการตามแนวทางที่ นายอำเภอเนิน ศึกขันเงิน ได้จัดระเบียบมาโดยตลอด จนกระทั่งปี พ.ศ.2548 หลังจากเกิดเหตุสึนามิถล่มฝั่งอันดามัน นายโภคิน พลกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือด่วนที่สุด มท.0810 6/ว พิเศษ (1) ลงวันที่ 3 มกราคม 2548 เรื่องแนวทางปฎิบัติในการป้องกันและดูแลรักษาพื้นที่ชายหาด และที่ดินสาธารณะที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์ ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูล และระนอง
และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการจังหวัดจัดระเบียบชายหาดขึ้นมา ให้ตนเอง และผู้ประกอบอาชีพชายหาดเข้าไปทำกินบนชายหาดนับแต่นั้นมา โดยมีคณะกรรมการร่มเตียงคอยกำกับดูแลให้เป็นไปตามที่จังหวัดได้จัดระเบียบไว้ และทางจังหวัดภูเก็ต ได้ถือปฏิบัติในการจัดระเบียบการประกอบอาชีพชายหาดดังกล่าวมาตลอดจนถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2557 และหลังจากนั้น ทางราชการแจ้งให้ตนเอง และผู้ประกอบการคนอื่นๆ ออกจากพื้นที่ชายหาด โดยเทศบาลตำบลกะรน และตนเองจึงได้ออกจากพื้นที่โดยปฏิบัติตามคำสั่งของทางราชการโดยดี และมิได้กลับเข้าไปประกอบอาชีพบุกรุกพื้นที่ชายหาดอีกนับตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นมา
ด้าน นายกอบกู้ พัฒกอ ผู้ประกอบการกล่าวว่า หลังจากที่มีการจัดระเบียบชายหาด ตนเอง และผู้ประกอบการคนอื่นๆ ไม่ได้ทำมาหากินมาเป็นระยะเวลา 5 เดือน รายได้ก็ไม่พอใช้ต้องเอาเงินเก็บมาใช้ บางคนต้องผ่อนรถ ส่งลูกเรียนหนังสือ และต้องดูแลพ่อแม่ที่ป่วย ตนเองจึงอยากให้วิงวอนทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าใจหัวอกผู้ประกอบการบ้าง เพราะผู้ประกอบการทุกคนต้องใช้เงินเป็นประจำทุกวัน ถ้าไม่ได้ประกอบธุรกิจแล้วจะเอาจากไหนมาใช้จ่ายในแต่ละวัน และตนเองอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดระเบียบชายหาดเหมือนชายหาดบางแสน เพื่อที่จะได้กลับมาทำหากินได้อีกครั้ง
