สุราษฎร์ธานี - เจ้าท่าสุราษฎร์ธานี คุมเข้มจราจรทางน้ำสมุย-พะงัน และแม่น้ำตาปี รับเทศกาลลอยกระทง และงานฟูลมูลปาร์ตี้ ตำรวจภูธรภาค 8 ห่วงใยประชาชนในเทศกาลวันลอยกระทง ขอความร่วมมืองดเล่นดอกไม้ไฟ พลุ และประทัดในลักษณะที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญ หรือเป็นอันตรายแก่ผู้อื่นโดยเด็ดขาด
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (6 พ.ย.) นายประเวศ สุภาชัย เจ้าท่าจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำเจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน ออกตรวจความพร้อมตามท่าเทียบเรือ และจุดจัดงานลอยกระทงในเขตพื้นที่อำเภอเมือง และแม่น้ำตาปี พบหลายแห่งที่มีการจัดงาน เป็นจุดเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย เช่น โป๊ะท่าเรือรับจ้างของเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จุดลอยกระทงวัดสมหวัง จุดลอยกระทงวัดท่าทอง และตลอดริมฝั่งแม่น้ำตาปี จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าประจำจุด เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในขณะประชาชนออกมาลอยกระทง พร้อมทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือต่อผู้ขับเรือรับจ้างขนส่งผู้โดยสารให้มีความระมัดระวังการขับเรือ และไม่ให้มีการบรรทุกน้ำหนักเกิน และขอให้ผู้โดยสารสวมใส่ชูชีพตลอดในเวลานั่งเรือออกจากท่า
นายประเวศ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่คุมเข้มการเดินทางโดยสารทางเรือของนักท่องเที่ยว และการให้บริการของเรือโดยสารไปยังเกาะพะงัน เพื่อร่วมงานฟูลมูนปาร์ตี้ วันขึ้น 15 ค่ำ ในขณะที่ริมถนนเลียบแม่น้ำตาปี มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้านำวัสดุจากธรรมชาติ มาจัดทำกระทงขายให้แก่ลูกค้ากันอย่างคึกคัก มีราคาเริ่มตั้งแต่ 40 บาท ไปจนถึง 300 บาท คาดว่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปที่เดินทางมาลอยกระทงริมฝั่งแม่น้ำตาปี
ด้าน พ.ต.อ.ถาวร แสงฤทธิ์ โฆษกตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า ช่วงวันลอยกระทง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีความห่วงใยในสวัสดิภาพชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่จะไปร่วมงานลอยกระทง จึงขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนงดเล่นดอกไม้ไฟ พลุ และประทัดในลักษณะที่สร้างความหวาดกลัว และก่อความเดือดร้อนรำคาญ หรือเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น การแต่งกายไม่ควรใส่ของประดับมีค่า หรือนำทรัพย์สินติดตัวไปจำนวน เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสประทุษร้ายต่อทรัพย์
รวมทั้งให้ระมัดระวังการบริการท่าเทียบเรือ หรือพื้นที่ที่มีประชาชนหนาแน่น เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย นอกจากนี้ ผู้ปกครองควรกำชับบุตรหลานให้เพิ่มความระมัดระวังเพื่อมิให้ถูกหลอกลวงไปในทางมิชอบ หรือประพฤติตนไม่ควร และไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเที่ยวงานโดยลำพัง ทั้งนี้ หากมีเหตุด่วนเหตุร้าย แจ้งได้ที่สายด่วน 191 ตลอด 24 ชั่วโมง