สธ. เตือนเล่นพลุ จุดประทัด ดอกไม้ไฟ ฉลองลอยกระทง ระวังตาบอดจากแรงระเบิด ชี้เจ็บตายทุกปี เผย 50% ต้องควักลูกตาทอ้ง แนะลอยกระทงในงานที่ห้ามเล่นประทัด ระบุกำชับ รพ. ทุกแห่งเตรียมพร้อมช่วยเหลือหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลลอยกระทง สธ. ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศเตรียมพร้อมหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน รถพยาบาล ให้พร้อมต่อการช่วยเหลือประชาชนที่จะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ อุบัติเหตุจราจร จมน้ำ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่มักลงไปเก็บเงินในกระทง และการบาดเจ็บจากการเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ ซึ่งจัดเป็นวัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง หากพบเห็นผู้บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ให้โทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพนเรนทร หมายเลข 1669 ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ ขอให้ผู้ปกครองดูแลลูกหลาน หลีกเลี่ยงการเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้หรือพิการตาบอดได้
ด้าน นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี กล่าวว่า ดวงตาถือเป็นอวัยวะที่มีความอ่อนไหวและสำคัญมากที่สุด หากได้รับการกระทบกระเทือน เช่น ฝุ่นควัน ของแข็ง น้ำสกปรก สารเคมี เปลวไฟ เพียงครั้งเดียวก็อาจพิการจนถึงขั้นตาบอดได้ แม้จะมีหนังตาเป็นเครื่องคุ้มกันก็ตาม เรื่องที่น่าห่วงคือเทศกาลวันลอยกระทง คาดว่าจะมีผู้ลักลอบเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ เป็นจำนวนมาก ซึ่งวัตถุเหล่านี้มีอันตรายต่อดวงตา เนื่องจากเมื่อพลุหรือประทัดจะเกิดแสง มีควัน และเกิดแรงระเบิด พร้อมเปลวไฟ หากเกิดการผิดพลาดขึ้น จะเป็นอันตรายต่อร่างกายซึ่งพบได้ทุกปี คือ มือ ใบหน้า และดวงตา ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง กากรุนแรงน้อย เช่น หนังตา และขนตาไหม้ ระดับปานกลาง คือ กระจกตาดำแตก ส่งผลให้เลือดออกในช่องม่านตา และระดับรุนแรงที่สุด คือ แก้วตาดำแตกและไหม้ ส่งผลต่อความพิการของดวงตา มากกว่าร้อยละ 50 จะต้องควักดวงตาออก เพื่อป้องกันการติดเชื้อลุกลามขึ้นสมอง มีเพียงส่วนน้อยที่จะรักษาด้วยการเย็บแผลแล้วหายเป็นปกติ
นพ.ฐาปนวงศ์ กล่าวว่า ประชาชนควรเลือกเที่ยวงานวันลอยกระทงที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้เล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟในพื้นที่ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น และแนะนำให้สวมแว่นตา รวมทั้งผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคอนแทคเลนส์สายตาหรือแฟชั่น แนะนำให้ถอดออกและใส่แว่นแทน แว่นที่มีกรอบและเลนส์ขนาดใหญ่ จะช่วยป้องกันสะเก็ดจากพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟเข้าตาได้เกือบ 100% ทั้งนี้ หากโดนสะเก็ดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟกระเด็นเข้าตา ในการดูแลเบื้องต้น ให้ใช้ผ้าสะอาดปิดตาและกุมลูกตาทันที ห้ามขยี้ ห้ามจับ ห้ามล้างน้ำเองโดยเด็ดขาด เนื่องจากยิ่งทำให้สะเก็ดฝังลึกลงไปอีก ขอให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันทีเพื่อให้แพทย์เฉพาะทางรักษา ส่วนผู้ที่ถูกควันจากดอกไม้ไฟชนิดเย็นเทียนเข้าตา ซึ่งนิยมเล่นกันมาก ควรใช้น้ำสะอาดล้างตาและประคบเย็นที่ดวงตา หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาโดยเร็วที่สุด
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลลอยกระทง สธ. ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศเตรียมพร้อมหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน รถพยาบาล ให้พร้อมต่อการช่วยเหลือประชาชนที่จะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ อุบัติเหตุจราจร จมน้ำ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่มักลงไปเก็บเงินในกระทง และการบาดเจ็บจากการเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ ซึ่งจัดเป็นวัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง หากพบเห็นผู้บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ให้โทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพนเรนทร หมายเลข 1669 ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ ขอให้ผู้ปกครองดูแลลูกหลาน หลีกเลี่ยงการเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้หรือพิการตาบอดได้
ด้าน นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี กล่าวว่า ดวงตาถือเป็นอวัยวะที่มีความอ่อนไหวและสำคัญมากที่สุด หากได้รับการกระทบกระเทือน เช่น ฝุ่นควัน ของแข็ง น้ำสกปรก สารเคมี เปลวไฟ เพียงครั้งเดียวก็อาจพิการจนถึงขั้นตาบอดได้ แม้จะมีหนังตาเป็นเครื่องคุ้มกันก็ตาม เรื่องที่น่าห่วงคือเทศกาลวันลอยกระทง คาดว่าจะมีผู้ลักลอบเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ เป็นจำนวนมาก ซึ่งวัตถุเหล่านี้มีอันตรายต่อดวงตา เนื่องจากเมื่อพลุหรือประทัดจะเกิดแสง มีควัน และเกิดแรงระเบิด พร้อมเปลวไฟ หากเกิดการผิดพลาดขึ้น จะเป็นอันตรายต่อร่างกายซึ่งพบได้ทุกปี คือ มือ ใบหน้า และดวงตา ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง กากรุนแรงน้อย เช่น หนังตา และขนตาไหม้ ระดับปานกลาง คือ กระจกตาดำแตก ส่งผลให้เลือดออกในช่องม่านตา และระดับรุนแรงที่สุด คือ แก้วตาดำแตกและไหม้ ส่งผลต่อความพิการของดวงตา มากกว่าร้อยละ 50 จะต้องควักดวงตาออก เพื่อป้องกันการติดเชื้อลุกลามขึ้นสมอง มีเพียงส่วนน้อยที่จะรักษาด้วยการเย็บแผลแล้วหายเป็นปกติ
นพ.ฐาปนวงศ์ กล่าวว่า ประชาชนควรเลือกเที่ยวงานวันลอยกระทงที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้เล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟในพื้นที่ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น และแนะนำให้สวมแว่นตา รวมทั้งผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคอนแทคเลนส์สายตาหรือแฟชั่น แนะนำให้ถอดออกและใส่แว่นแทน แว่นที่มีกรอบและเลนส์ขนาดใหญ่ จะช่วยป้องกันสะเก็ดจากพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟเข้าตาได้เกือบ 100% ทั้งนี้ หากโดนสะเก็ดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟกระเด็นเข้าตา ในการดูแลเบื้องต้น ให้ใช้ผ้าสะอาดปิดตาและกุมลูกตาทันที ห้ามขยี้ ห้ามจับ ห้ามล้างน้ำเองโดยเด็ดขาด เนื่องจากยิ่งทำให้สะเก็ดฝังลึกลงไปอีก ขอให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันทีเพื่อให้แพทย์เฉพาะทางรักษา ส่วนผู้ที่ถูกควันจากดอกไม้ไฟชนิดเย็นเทียนเข้าตา ซึ่งนิยมเล่นกันมาก ควรใช้น้ำสะอาดล้างตาและประคบเย็นที่ดวงตา หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาโดยเร็วที่สุด