ยะลา - นอภ.ธารโต จ.ยะลา สนธิกำลังตรวจการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ กลับพบเสาไฟฟ้ากว่า 20 ต้น วางเรียงรายตามเส้นทางเข้าไปในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบโดยด่วน
วันนี้ (4 พ.ย.) นายบุญเติม รองเลื่อน นายอำเภอธารโต จ.ยะลา ได้สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ยล.4 บันนังสตา ตำรวจป่าไม้ จนท.อุทยานแห่งชาติบางลาง จนท.นิคมสร้างตนเองธารโต ทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 อ.ธารโต รวมแล้วกว่า 50 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ในหมู่บ้านไทยพัฒนา ม.4 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา หลังมีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ได้ร้องเรียนมายังอำเภอธารโต ว่า มีกลุ่มบุคคลเข้าไปบุกรุกโค่นถางป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ ซึ่งเกรงว่าจะทำให้เกิดภัยธรรมชาติขึ้นได้ในอนาคต
ซึ่งหลังจากที่ทางอำเภอธารโตได้รับแจ้ง จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าตรวจสอบในพื้นที่ตามที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนมา โดยการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ เข้าไปยังพื้นที่ เนื่องจากสภาพเส้นทางทุรกันดาร และอยู่ห่างไกลจากเขตหมู่บ้าน
โดยเมื่อเดินทางไปถึง นายบุญเติม รองเลื่อน นายอำเภอธารโต ได้ชี้แจงทำความเข้าใจต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมทำการตรวจสอบ โดยระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวนี้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ต้นน้ำ 20 เปอร์เซ็นต์ตามข้อกำหนดของเขตป่าสงวน และเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนว่า ถูกกลุ่มบุคคล เข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อทำการจับจอง และปลูกพืชเศรษฐกิจทดแทน ซึ่งทางหน่วยงานรับผิดชอบ คือ นิคมสร้างตนเองธารโตต้องทำการตรวจสอบจากพิกัดทาง GPS และเปรียบเทียบกับ ข้อมูลแผนที่ป่าไม้ที่อยู่ในความรับผิดชอบดูแล โดยในอำเภอธารโตนั้น จะมีพื้นที่จัดสรรจากนิคมให้แก่ราษฏรได้ทำกิน ตามข้อบัญญัติการจัดสรรพื้นที่ทำกิน แต่ก็ยกเว้นในส่วนของป่าต้นน้ำ 20 เปอร์เซ็นต์ ที่จะต้องมีการอนุรักษ์ไว้ไม่ให้มีการบุกรุกแผ่วถาง หรือจับจองเป็นที่ทำกินไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
และจากการตรวจสอบตามข้อมูลที่ได้รับแจ้งก็พบพื้นที่ป่าถูกแผ้วถาง และโค่นต้นไม้ใหญ่ อีกทั้งมีการปลูกต้นทุเรียนแซมไว้ในพื้นที่ป่าที่ได้ทำการแผ่วถางแล้ว ซึ่งมีเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 10 ไร่ โดยนายอำเภอธารโต ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองธารโต ทำการตรวจสอบพิกัดทางอากาศเพื่อยืนยันกับแผนที่ป่าไม้จัดสรรในความรับผิดชอบของนิคม ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่า อยู่นอกเนื้อเขตพื้นที่จัดสรรจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ ร่วมกับตำรวจในพื้นที่ดำเนินการติดตามผู้กระทำความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้มาดำเนินคดีตามขั้นตอนการบุกรุกป่า
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบก็พบว่า มีเสาไฟฟ้า จำนวนกว่า 20 ต้น เรียงรายตามเส้นทางไม่ต่ำกว่า 2 กิโลเมตร เข้าไปยังในเขตพื้นที่ป่าต้นน้ำ และยังมีมิเตอร์ไฟฟ้าติดอยู่กับเสาไฟฟ้าอีกด้วย ทั้งที่ในพื้นที่ดังกล่าวมีบ้านเรือนของชาวบ้านซึ่งไม่มีเลขที่อาศัยอยู่เพียง 3-4 ครัวเรือนเท่านั้น จึงทำให้เป็นข้อสงสัยว่า เสาไฟฟ้าดังกล่าวเข้ามาอยู่ในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำได้อย่างไร และมีใครเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งทางนายบุญเติม รองเลื่อน นายอำเภอธารโต จะเรียกหน่วยงานในพื้นที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมหารือ และสอบถามถึงข้อเท็จจริงต่อไป